วิธีเลือกซื้อบ้าน ตามหลักฮวงจุ้ย

ฮวงจุ้ยบ้านที่ดีไม่ได้แค่เรื่องของการจัดแต่งบ้านเท่านั้นนะคะ แต่ถ้าใครกำลังคิดจะซื้อบ้านหลังใหม่ ก็ควรมีวิธีเลือกซื้อบ้านตามฮวงจุ้ยบ้านกันด้วย จะได้อยู่อย่างสุขสบาย เฮง ๆ กันถ้วนหน้า

กว่าจะตัดสินใจซื้อบ้านหลังใหม่ หรือบ้านหลังแรกให้ตัวเอง ก็ต้องผ่านการพิจารณาในสารพัดเรื่อง ไม่เพียงแค่เรื่องการตกแต่ง ทำเล ราคา ความเหมาะสม และความสะดวกสบายเท่านั้น แต่จะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้าเราซื้อบ้านที่ถูกหลักฮวงจุ้ยและเหมาะสมกับการอยู่อาศัย เอ๊ะ ! แล้วเราจะดูจากอะไรล่ะว่าหลังไหนมีหลักฮวงจุ้ยบ้านที่ดีและเป็นบ้านที่ควรซื้อ ถ้าคุณกำลังสงสัยแบบนี้อยู่ เอาเป็นว่ามาศึกษาหลักฮวงจุ้ยบ้านตามนี้ได้เลย

1. ซื้อบ้านใหม่ หรือบ้านมือสองที่เจ้าของเดิมประสบความสำเร็จ

บ้านที่ส่อแววรุ่งเรืองอันดับแรกควรต้องเป็นบ้านใหม่ เนื่องจากบ้านหลังใหม่ไม่ต้องกังวลเรื่องเจ้าของเดิม หรือประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ที่ติดกับบ้านมา แต่ถ้าบ้านที่คุณเล็งไว้เป็นบ้านมือสอง ควรเลือกบ้านที่เจ้าของเดิมประสบความสำเร็จสูง หรือมีโชคลาภจนต้องย้ายบ้านไปอยู่ในที่ที่ดีกว่า ยิ่งถ้าเจ้าของเดิมถูกหวยรวยเบอร์ด้วยก็จะยิ่งดี เพราะเท่ากับว่าบ้านหลังนี้มีพลังงานด้านบวกที่ส่อแววโชคดีไว้อยู่แล้ว

2. ขนาดพื้นที่หลังบ้านต้องกว้างกว่าหน้าบ้าน

ไม่ควรเลือกซื้อบ้านที่อยู่เชิงเขา หรือบ้านที่ตั้งอยู่บนเนิน แต่มีทางลาดลงด้านหลังบ้าน เพราะส่อถึงความไม่มั่นคงแน่นอน แต่ควรเลือกซื้อบ้านที่มีพื้นที่หลังบ้านกว้างขวางกว่าพื้นที่หน้าบ้าน หรือง่าย ๆ ก็เลือกซื้อบ้านที่มีพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าดีกว่า

3. ตำแหน่งห้องต่าง ๆ ต้องเป๊ะ

บ้านที่มีหลักฮวงจุ้ยดี อยู่แล้วร่มรื่นรุ่งเรือง ควรต้องมีการจัดวางห้องต่าง ๆ อย่างถูกหลัก โดยห้องนอนต้องไม่อยู่ใกล้ หรือมีบริเวณเชื่อมต่อกับห้องครัว โรงรถ หรือห้องซักรีด และห้องครัวกับห้องน้ำก็ต้องไม่อยู่ใกล้กัน หรือห้องครัวอยู่ใต้ห้องน้ำก็ไม่ควร เพราะเป็นจุดบอดที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้ แต่ถ้าให้อธิบายตามหลักที่เห็นได้จริง ก็อาจจะบอกได้ว่า ห้องนอนควรเป็นห้องที่มีบรรยากาศร่มเย็น ดังนั้นจึงไม่ควรให้อยู่ติดกับห้องครัว หรือห้องซักรีดที่มีความร้อนสูง ส่วนห้องน้ำเป็นห้องที่มีแนวโน้มเสี่ยงกับเชื้อโรคมากมาย ถ้าอยู่ติดกับห้องนอน หรือห้องครัวก็อาจจะทำให้เชื้อโรคลุกลามมาถึงห้องครัวเหล่านี้ได้นั่นเอง นอกจากนี้ห้องนอนควรต้องไม่อยู่หน้าประตูบ้าน หรือบริเวณที่เปิดโล่งด้วยนะคะ เพราะบริเวณเหล่านี้จะมีคนเดินพลุกพล่าน รบกวนการนอนหลับได้

4. มีพื้นที่หนุนด้านหลังบ้าน

หากพื้นที่ด้านหลังบ้านมีเนินหนุนให้บ้านดูสูง หรือมีพื้นดินที่แน่นหนาพอ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองกับผู้อยู่อาศัยได้ แต่หากพื้นที่หลังบ้านลาดลง จะเป็นจุดบอดที่ทำให้ประสบความล้มเหลวเรื่อยไป ดังนั้นหากบ้านของคุณมีพื้นที่ด้านหลังลาดต่ำ อาจต้องแก้เคล็ดด้วยการถมหน้าดินให้สูงเป็นเนินขึ้นมานิดหน่อย

5. พื้นที่หน้าบ้านต้องเปิดโล่ง

หากพื้นที่หน้าบ้านกว้างขวางและเปิดโล่ง ถือว่าเป็นทำเลที่เป็นสิริมงคลมาก ๆ เพราะหมายถึงโอกาสที่หลากหลายและเปิดโล่งให้เราได้ก้าวเข้าไปหา ดังนั้นหากหน้าบ้านของคุณมีต้นไม้ สิ่งกีดขวาง หรือแม้แต่พุ่มไม้ และกิ่งไม้ปกปิดหน้าบ้านจนมืดทึบ ก็ควรต้องกำจัดออกให้พ้นทางหน้าบ้านด้วย โชคลาภและพลังชี่จะได้วิ่งเข้าใส่บ้านเราแบบเต็ม ๆ

6. รอบ ๆ บ้านมีส่วนหนุนพลังงานดี

บ้านที่อยู่ในฮวงจุ้ยที่ดีต้องมีบริเวณรอบ ๆ ที่หนุนพลังงานด้านดีด้วย ยกตัวอย่างเช่น ที่ดิน หรืออาคารก่อสร้างด้านซ้ายของบ้านต้องอยู่ในระดับสูงกว่าตัวบ้านของเรา เพราะจะช่วยดันพลังงานชี่ให้ไหลเวียนเข้าหาบ้านได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้หน้าบ้านต้องไม่มีถนนตัดผ่านในแนวตรงดิ่งเข้าหาบ้าน หรือตำแหน่งบ้านเป็นจุดสิ้นสุดของถนนเส้นตรงเด็ดขาด เนื่องจากลักษณะบ้านแบบนี้เป็นแหล่งสามแพร่ง ศูนย์รวมพลังงานด้านลบที่ส่งผลโดยตรงเข้าหาบ้าน แต่ในกรณีที่เลี่ยงไม่ได้ ให้ปลูกต้นไม้มาขวางทางพลังงานด้านลบไว้ หรือใช้กระจกแปดเหลี่ยมสะท้อนพลังงานด้านลบให้พ้นจากรัศมีบ้านไป

7. ที่ตั้งของบ้านต้องเหลื่อมมาด้านหน้า

สำหรับคนที่อยากได้บ้านฮวงจุ้ยดีที่สุด ควรเลือกซื้อบ้านบนทำเลที่ดีต่อหลักฮวงจุ้ยและปลูกบ้านให้เหลื่อมมาทางด้านหน้าเล็กน้อย เพราะหากบ้านเหลื่อมไปทางด้านหลังมากเกินไป ตามศาสตร์ของฮวงจุ้ยก็ถือว่าเป็นบ้านที่อยู่ในทำเลของจุดตั้งรับ ซึ่งอาจทำให้ผู้อยู่อาศัยต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรคที่วนเวียนเข้ามาในชีวิตตลอด

8. เตาไฟไม่ควรอยู่ทางทิศเหนือของบ้าน

จุดสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือ ทิศเหนือของบ้าน ซึ่งทิศนี้ไม่ควรเป็นที่ตั้งของเตาไฟ แก๊ส หรือแหล่งที่ปล่อยพลังงานความร้อน หรือก๊าซหุงต้มใด ๆ เนื่องจากเป็นลางร้ายที่อาจจะส่งผลกระทบต่อผู้นำของบ้าน หรือผู้ชายที่อยู่ในบ้านนั่นเองค่ะ

ก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านสักหลัง ก็ควรพิจารณาตามหลักฮวงจุ้ยที่ดีต่อไปนี้ด้วยนะคะ ทุกคนในครอบครัวจะได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วยความสงบสุข มั่งคั่ง และมีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานกันถ้วนหน้า

Cr. Kapook

เชื่อไหม ลายกระเบื้อง มีผลต่อฮวงจุ้ย

ลายกระเบื้องกับฮวงจุ้ยบ้าน เลือกอย่างไรให้ถูกหลักฮวงจุ้ย วันนี้เรามีข้อมูลของการเลือกลายกระเบื้องมาฝาก

ลายกระเบื้องกับหลักฮวงจุ้ยบ้าน หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องซึ่งกันและกันอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งที่จริงแล้วในการเลือกซื้อกระเบื้อง นอกจากจะต้องเลือกประเภทที่เหมาะสมกับห้องต่าง ๆ แล้ว ลายกระเบื้องก็ยังเป็นอีกส่วนสำคัญที่ควรพิจารณา ว่าแต่จะเลือกอย่างไรให้ถูกหลักฮวงจุ้ยบ้าน เราลองไปดูข้อมูลพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

ลายคลื่นน้ำ

กระเบื้องลายระลอกคลื่น เป็นธาตุเย็นที่จะส่งผลให้เกิดความใจเย็น รอบคอบ และมีสติ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความสบายใจ ไม่กลัวปัญหาและส่งผลดีในระยะยาวของชีวิตอีกด้วย

ลายธรรมชาติ

กระเบื้องลวดลายธรรมชาติ เช่น ดอกไม้ ต้นไม้ จะช่วยให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขภายในบ้าน อีกทั้งยังช่วยให้ชีวิตเบ่งบานสดใสด้วย

ลายเมฆ

กระเบื้องลายก้อนเมฆ จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความมั่งคั่ง ร่ำรวย รวมถึงเกิดพรดี ๆ ในชีวิต

ลายเกล็ดปลา

กระเบื้องลายเกล็ดปลา จะช่วยส่งผลให้ประสบความสำเร็จในชีวิต ทำการใดก็ราบรื่น อีกทั้งยังให้โชคด้วย

ลายงู

กระเบื้องลายงู คือของต้องห้ามในทางฮวงจุ้ย เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์แห่งความอาฆาตเคียดแค้น ทั้งยังหมกมุ่นกับตัณหาและเรื่องโลกีย์ด้วย

Cr. Kapook

8 จุดในบ้านที่ควรทำความสะอาด เพื่อความเป็นสิริมงคล

ทำความสะอาดบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากการทำความสะอาดบ้านจะช่วยปรับปรุงสุขอนามัยที่ดีของคนในบ้านได้แล้ว ความเป็นสิริมงคลของบ้านก็เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ แค่ทำความสะอาดบ้านตามจุดเหล่านี้

ไม่ว่าใครก็คงอยากอยู่ในบ้านที่แลดูสะอาดสะอ้าน เพราะหากบ้านสะอาดก็จะมีบรรยากาศน่าอยู่ขึ้นมาเลยทันที แต่แค่นั้นยังไม่พอนะคะ เพราะความสะอาดของบ้านใน 8 จุดต่อไปนี้ ยังช่วยส่งเสริมความเป็นสิริมงคล และถูกหลักฮวงจุ้ยบ้านจนนำพาโชคลาภมาให้คุณ ๆ กันด้วย

1. ทำความสะอาดห้องน้ำ

ห้องน้ำเป็นจุดที่สะสมทั้งเชื้อโรคและพลังงานด้านลบเอาไว้เยอะพอสมควร ดังนั้นห้องน้ำก็ควรเป็นห้องแรกที่ต้องทำความสะอาดให้หมดจด เพราะนอกจากจะทำให้เราได้ใช้ห้องน้ำที่สะอาดถูกสุขอนามัยแล้ว การทำความสะอาดห้องน้ำยังเหมือนได้กำจัดพลังงานด้านลบที่ส่งผลกระทบกับสุขภาพร่างกายของคนในบ้านได้อีกต่างหาก

2. ห้องครัวต้องเอี่ยม

ในศาสตร์ของฮวงจุ้ย ห้องครัวเป็นห้องที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของคนในบ้าน ซึ่งทางที่ดีเราก็ควรดูแลห้องครัวให้สะอาดเอี่ยมทุกซอกทุกมุมอยู่เสมอ เพื่อให้พลังงานดีไหลเวียนในห้องนี้ได้อย่างสะดวก นำพาความร่ำรวยและโชคลาภมาสู่เราอย่างลื่นไหล

3. กำจัดฝุ่นทุกจุดในห้องนอน

ห้องที่สื่อถึงเรื่องสุขภาพโดยตรงก็คือห้องนอนของเรานี่เองนะคะ เพราะตลอด 6-8 ชั่วโมงที่เรานอนหลับอยู่ในห้องนอน ก็เท่ากับเราได้หายใจเอาอากาศที่ไหลเวียนอยู่ในห้องนี้เข้าปอดไปเต็ม ๆ ซึ่งอากาศที่ว่าก็คงจะปะปนไปด้วยฝุ่น เชื้อโรค และแบคทีเรียมากหน้าหลายตา ดังนั้นใครตื่นมาพร้อมความรู้สึกอ่อนเพลียก็ไม่ต้องแปลกใจเลย เอาล่ะ ! ถ้าอย่างนั้นเรามากำจัดเจ้าฝุ่นและเชื้อโรคที่แฝงตัวเนียน ๆ อยู่ในห้องนอนเราให้หมดไปซะดีกว่า โดยไล่ดูดฝุ่นตั้งแต่ฟูกนอน ผ้าม่าน พื้นใต้เตียง บนหลังตู้ ตามขอบหน้าต่างทุกบาน พร้อมกันนั้นก็ถอดปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม และผ้าคลุมเตียงไปซัก แล้วอย่าลืมนำหมอนออกไปตากแดดจัด ๆ เพื่อไล่ฝุ่นด้วย

4. บ้านต้องสะอาดทุกซอกทุกมุม

ความสะอาดทุกซอกทุกมุมก็หมายถึงทุกตารางนิ้วในบ้านต้องหมดจดอย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะตามซอกมุมในบ้านทุกจุด เช่น มุมห้องรับแขก มุมห้องนอน มุมเพดาน และมุมห้องทุกส่วนในบ้าน ที่มักจะมีแมงมุมไปชักใยทิ้งไว้ ทว่านับแต่นี้ต่อไปเพื่อความเป็นสิริมงคลของบ้าน รวมทั้งเพื่อสุขอนามัยที่ดีของทุกคน เรามาจัดการซอกมุมเหล่านี้ให้สะอาดเอี่ยมกันไปเลยเถอะ

5. บริเวณนอกบ้านก็อย่ามองข้าม

หลังจากดูแลความสะอาดในบ้านไปเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ถึงตาบริเวณนอกบ้านกันบ้าง โดยอุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณทำความสะอาดบริเวณนอกบ้านทั้งขอบหน้าต่าง ทางเดินเข้าบ้าน และพื้นที่อื่น ๆ ได้โดยง่ายและเหนื่อยน้อยก็คือเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง (ราคาประมาณ 2,000-10,000 บาท) ด้วยพลังอัดฉีดน้ำที่รุนแรงจะช่วยให้คุณกำจัดทุกสิ่งสกปรกออกไปได้หมดจดในพริบตา แต่หากใครสะดวกจะค่อย ๆ ปัด กวาด เช็ด ถูไปทีละจุดก็ไม่ว่ากัน ขอแค่ให้บริเวณนอกบ้านดูสะอาดตาเท่านั้นก็เป็นอันใช้ได้ แค่นี้ตั้งแต่หน้าบ้านเป็นต้นมาก็จะมีสภาพที่สะอาดน่ามอง พร้อมต้อนรับความโชคดีแล้วจ้า

6. หลังตู้ก็ต้องใส่ใจ

บนหลังคาบ้าน เฟอร์นิเจอร์ที่มีบริเวณด้านบน หรือแม้กระทั่งโคมไฟก็เป็นแหล่งสะสมเศษสกปรกและฝุ่นไว้ไม่น้อย ฉะนั้นถ้าอยากให้บ้านสะอาดเอี่ยมอย่างหมดจดจริง ๆ ก็ควรใส่ใจทำความสะอาดพื้นที่บริเวณเหล่านี้ด้วย แค่นี้ก็ไร้อุปสรรคมาขัดขวางความเป็นสิริมงคลของบ้านแล้ว

7. กระดาษที่ไม่ใช้ต้องกำจัดออก

ไม่ว่าจะเป็นกระดาษเหลือใช้หรือแม้กระทั่งนิตยสารเก่าเก็บที่คนในบ้านไม่เคยหยิบมาอ่านอีกเลย ก็ควรกำจัดออกไปซะ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในบ้านให้กว้างขวางขึ้น พร้อมทั้งกำจัดแหล่งกักเก็บฝุ่นอีกจุดออกไปให้หมด หรือใครมีไอเดียสร้างสรรค์จะนำกระดาษเหลือใช้เหล่านี้มารีไซเคิลเป็นของใช้และของแต่งบ้านเก๋ ๆ ก็ได้นะ

8. จัดการความสกปรกบนผืนพรม

สำหรับบ้านที่ปูพรมเอาไว้ ส่วนของพรมก็ต้องทำความสะอาดเป็นประจำ และเพื่อเคลียร์บ้านให้พร้อมรับโชคลาภ ความรุ่งเรือง ควรจำนำพรมไปทำความสะอาดอย่างล้ำลึกยังร้านที่มีบริการทำความสะอาดพรมอย่างเต็มรูปแบบด้วยนะคะ อย่างน้อยยอมเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปบ้างเพื่อแลกกับบรรยากาศสะอาด ๆ ของบ้านปีละครั้งก็ยังดี

อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าความสะอาดเป็นสิริมงคลอย่างที่สุดของบ้าน ซึ่งจะนำพาความรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ความโชคดีในชีวิต และความมั่งคั่งร่ำรวยมาหาทุกคนในบ้านอย่างแน่นอน และอย่างน้อยที่สุดสมาชิกครอบครัวทุกคนก็จะได้อาศัยอยู่ในบ้านที่สะอาด มีบรรยากาศน่าพักผ่อนให้สมกับคำว่าบ้านแสนสุขอย่างแท้จริงด้วยนะคะ

Cr. kapook.com

5 สิ่งของมีตำหนิควรกำจัด หากเก็บไว้อาจเกิดลางร้าย

สิ่งของรอบตัวต่างก็มีอิทธิพลกับชีวิตเราด้วยกันทั้งนั้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โดยเฉพาะสิ่งของในบ้านที่ไม่สามารถมองข้ามได้เลย ซึ่งหากจัดได้ดีถูกต้องถูกตำแหน่งก็จะช่วยส่งเสริมให้ชีวิตดีขึ้น แต่ในทางกลับกันหากสิ่งของวางผิดที่ผิดทาง หรือสิ่งของมีตำหนิอย่างใดอย่างหนึ่งที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ แม้จะเป็นของมีค่ามีราคาก็อาจทำให้ชีวิตไม่เป็นสุขได้ด้วยเช่นกัน ว่าแล้วก็ตามไปดูกันดีกว่า ว่าของมีตำหนิมีอิทธิพลและส่งผลให้ชีวิตของสมาชิกภายในบ้านเปลี่ยนไปได้อย่างไรบ้าง

1. สิ่งของที่มีสภาพไม่สมบูรณ์

สิ่งของที่มีสภาพไม่สมบูรณ์ ได้แก่ สิ่งของที่มีลักษณะครึ่ง ๆ กลาง ๆ เหมือนยังสร้างไม่เสร็จ มีส่วนใดส่วนหนึ่งเว้าแหว่งไป หรือดูไม่สมดุลอยู่ในบ้าน ก็จะส่งผลให้ชีวิตของคุณ ทำอะไรก็ไม่ประสบสำเร็จ หรือสำเร็จแต่ก็อาจไม่ได้ผลอย่างที่ต้องการ อีกทั้งสิ่งของตามลักษณะดังกล่าวนี้ยังทำให้หน้าที่การงาน ไม่ราบรื่น เต็มไปด้วยอุปสรรค ทำให้ติดขัดไปหมด

2. สิ่งของที่มีรอยแตกร้าว

รอยแตกร้าวบนสิ่งของเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อให้เห็นถึงการไร้ความสามารถ ขาดชีวิตชีวา ซึ่งการเก็บสิ่งของดังกล่าวไว้ในบ้านก็จะส่งผลให้ขาดความมั่นใจ หรือขาดการเห็นคุณค่าในตัวเอง ที่สำคัญไม่ว่าจะลงมือทำสิ่งใดก็มักจะกลายเป็นความผิดพลาด แม้จะเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นก็ดูไม่ถูกไม่ควรนักในสายตาของคนอื่น ในทางกลับกันหากสิ่งเหล่านี้ถูกกำจัดออกไป ความมั่นใจก็กลับคืนมา

3. ของมือสอง

การนำของมือสองมาใช้ส่งผลเสียกับชีวิตไม่น้อย โดยนอกจากจะสร้างความรู้สึกไม่พอใจในตัวเองแล้ว ยังไม่เป็นที่ยอมรับของคนรอบข้างด้วย แต่สิ่งเหล่านี้จะเลือนหายไป หากเปลี่ยนจากนำของมือสองมาใช้เป็นของใหม่ หรือกำจัดสิ่งของที่ถึงเวลาควรกำจัดออกไปจากบ้าน อย่างเช่น เสื้อผ้าเหลือใช้ หรือเศษขยะต่าง ๆ หากสามารถทำได้ชีวิตที่ไม่เคยมีใครสนใจก็ให้ผลตรงกันข้ามทันที

4. ของที่มีอดีตไม่น่าจดจำ

ตัวอย่างของสิ่งของที่มีอดีตไม่น่าจดจำ ได้แก่ สิ่งของที่ได้มาจากคนรักเก่า หรือมาจากคนที่ทำให้เสียใจเสียความรู้ในภายหลัง ก็ไม่ควรเก็บไว้เช่นกัน เพราะจะทำให้ชีวิตมีแต่ความทุกข์ ขาดสีสันไม่มีชีวิตชีวา และจะเริ่มต้นสานสัมพันธ์กับคนใหม่ ก็ไม่ราบรื่นอย่างที่คิด มีอุปสรรคติดขัด และทำให้ทะเลาะกันบ่อย อีกทั้งยังทำให้ความเจ็บปวดยังคงวนเวียนอยู่ในชีวิตด้วย

5. ของขนาดจิ๋ว

สิ่งของที่มีขนาดเล็กมาก ๆ หรือของจิ๋วอาจจะดูน่ารักในสายตาของใครหลาย ๆ คน แต่ของเหล่านี้ก็ทำให้ชีวิตของคุณเต็มไปด้วยสิ่งของเล็ก ๆ ที่ไม่อาจเป็นหลักเป็นฐานหรือทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นได้เหมือนกัน โดยเฉพาะหากสิ่งเหล่านี้เป็นของที่ซื้อด้วยตัวเอง และถูกวางทิ้งเกลื่อนกลาดไปหมด ก็จะทำให้ไม่สามารถเก็บเงินเพื่อซื้อของชิ้นใหญ่ ๆ อย่างเช่น รถ หรือบ้านได้ ซึ่งถ้าหากคุณเลิกซื้อหรือเก็บสะสมของชิ้นเล็ก ๆ ก็จะช่วยแก้ปัญหาในจุดนี้ได้

สิ่งของเหล่านี้ไม่ว่าจะใช้งานได้หรือไม่ ก็ควรกำจัดทิ้ง หรือเก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แทนที่จะวางระเกะระกะ จนทำให้ชีวิตต้องเสียสมดุลและขาดความสุข อีกทั้งในเมื่อตอนนี้ก็รู้แล้วว่า มีสิ่งของชิ้นใดบ้างที่ควรกำจัด หรือจัดเก็บก็ควรรีบลงมือทันที หากไม่อยากชีวิตแย่ ทำอะไรก็ติดขัด หรือมีอุปสรรคตลอดอย่างที่เป็นอยู่

Cr. kapook.com

CMC คืนความสุขให้ลูกค้า

ด้วยประสบการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์อันยาวนานกว่า 20 ปี CMC Group และบริษัทในเครือ ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาโดยตลอด ทั้งโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม โดยปัจจุบัน CMC Group ได้สร้างโครงการคุณภาพบนทำเลศักยภาพมากมาย อาทิ คาซ่า ยูเรก้า, คาซ่า ดีว่า, แบงค์คอก ฮอไรซอน, ชาโตว์ อินทาวน์ และ แบงค์คอก เฟ'ลิซ

นายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) กล่าวเพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในคุณภาพ และบริการหลังการขายทีjเป็นเลิศ ในเดือนกรกฎาคมนี้จึงขอคืนช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจเลือกที่อยู่อาศัยกับ CMC Group จึงขอคืนความสุขให้กับลูกค้าทุกท่านด้วยแคมเปญ CMC Grand Sale ที่รวบรวมทุกๆ ศักยภาพแห่งการอยู่อาศัยพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย อาทิ ส่วนลดสูงสุด 1 ล้านบาท, อยู่ฟรี 1 ปี, ผ่อน 0% นาน 10 เดือน, Cash Back 100,000 บาท, ฟรีเฟอร์นิเจอร์+เครื่องใช้ไฟฟ้า, จอง+สัญญารับ Samsung Galaxy S5



CR. CMC Group

แคมเปญเด็ด CMC Summer Sale Event 4 Air

CMC อัดโปรโมชั่นเด็ด CMC Summer Sale Event 4 Air "วันสบาย คลายร้อน กับ CMC" วันที่ 24-30 เมษายน 2557 เดอะมอล์บางแค ชั้น G โซน Lifestyle Avenue B เผย 4 แคมเปญเด็ดเอาใจลูกค้า เพิ่มอำนาจในการตัดสินใจให้ลูกค้าสามารถครอบครองคอนโด และทาวน์โฮม สุดหรูที่เตรียมมาเพื่อทุกท่านที่กำลังมองหาที่พักอาศัยซึ่งมาพร้อมกับทำเลคุณภาพ กับ 4 แคมเปญเด็ด

- I-Pad Air 
- Ozone Air 
- Fresh Air Chatrium Hotel & Riverside 
- Air Ticket Maldive package* 

ในงานคุณจะได้พบกับที่อยู่อาศัยคุณภาพเยี่ยม อาทิ โครงการแบงค์คอก ฮอไรซอน เพชรเกษม, แบงค์คอก ฮอไรซอน P48, แบงค์คอก ฮอไรซอนสาทร, แบงค์คอก เฟ’ลิซ @สถานีกรุงธนบุรี , แบงค์คอก เฟ’ลิซ สาทร และ คาซ่า ยูเรก้า พระราม 2 - พุธบูชา ที่จะมาพร้อมข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่นดีๆ ที่คุณไม่ควรพลาดและไม่อาจปฏิเสธได้

และทั้งหมดนี้พร้อมให้คุณได้สัมผัสความเหนือระดับแห่งการอยู่อาศัย กับแคมเปญสุดฮอตที่ต้องขอบอกเลยว่าแรงกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ที่นี่ที่เดียวกับ CMC Summer Sale Event 4 Air “วันสบาย คลายร้อน กับ CMC” วันที่ 24-30 เมษายน 2557 เดอะมอล์บางแค ชั้น G โซน Lifestyle Avenue B แล้วพบกัน...
……………………………………………………………………………………………………………………
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-468-9000 Ext.8710, E-mail: mgrmkt4@cmc.co.th
www.cmc.co.th, www.facebook.com/cmc.co.th

วิธีแต่งบ้าน รับอากาศร้อน

เข้าสู่ช่วงฤดูร้อนก็ต้องทำใจกันหน่อยค่ะ เพราะต้องบอกว่าร้อนจริงๆ จะให้เปิดแอร์ตลอดเวลานั้นเชื่อว่าค่าไฟคงบานเบอะแน่ๆ ที่สำคัญวันนี้เราจะมาหาวิธีแต่งบ้านที่จะช่วยให้คลายร้อน กันบ้างอย่างน้อยก็เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าไฟฟ้าที่เกิดจากการเปิดแอร์ แล้วก้อยังช่วยให้อุณหภูมิภายในบ้านเย็นขึ้นค่ะ

โดยหลักง่ายๆ ในการจัดบ้านของคุณให้อยู่สบาย ไม่ร้อน และประหยัดพลังงาน เริ่มจากการปรับให้โล่ง โปร่งที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพราะศัตรูตัวฉกาจ คือ ความร้อน ความอับทึบ ที่ต้องกำจัดออกไป เรามาดูกันว่ามีวิธีอะไรกันบ้างที่จะช่วยดับร้อนกันค่ะ

สร้าง หรือ ตกแต่งบ้าน ด้วยวัสดุที่กันความร้อนและความชื้นได้ดี การเลือกใช้วัตถุดิบในการสร้างบ้านหรือตกแต่งบ้านนั้นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยทำให้บ้านเย็นขึ้นได้ค่ะ โดยเฉพาะวัตถุดิบที่มีการเก็บหลักษาความชื้น หรือจะติดกันสาด หรือแผงกันแดดให้บ้าน ช่วยป้องกันความร้อนและแสงแดดไม่ให้ส่องตรงเข้ามาในบ้าน และยังได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นอาจจะใช้เป็นลานอเนกประสงค์ใช้ทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัวก็ถือว่าโอเคค่ะ

นอกจากนี้การปรับจากภายนอกอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ หรือต้องเสียค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นเราจะมาเริ่มปรับจากภายในอย่างห้องต่างๆ ให้มีลักษณะโปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีการระบายความร้อนได้ดี และยังเปลี่ยนบรรยากาศภายในห้องได้ด้วย การทาสีผนังห้อง หรือเลือกวัสดุพื้น กรุผนังสีอ่อน เพื่อช่วยลดการสะสมความร้อน และช่วยสะท้อนแสงให้ห้องสว่างขึ้น อาจจะเลือกโทนสีที่ทำให้ดูสบายตาและสดชื่น

ในส่วนของการจัดวางตำแหน่งมีผลต่อการทำให้บ้านเย็นสบายอย่างการจะวางเฟอร์นิเจอร์การแต่งทำให้ห้องดูโล้งและกว้างไม่อึดอัดจนเกินไป รวมไปถึงการจัดวางห้องนอนควรอยู่ทิศตะวันออก เพื่อหลีกเลี่ยงแดดช่วงบ่ายห้องเก็บของ ห้องซักผ้า ห้องน้ำ ห้องครัว ที่จอดรถ ควรอยู่ทางทิศตะวันตก เพื่อเป็นส่วนกันความร้อนให้กับพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของบ้านห้องพักผ่อน ห้องรับแขก ควรตั้งอยู่ทิศเหนือ เพราะจะถูกแสงแดดส่องในช่วงกลางวันน้อยกว่าทิศอื่นๆ อาจทำระเบียงและพุ่มไม้ เพื่อป้องกันแสงแดด

ทั้งนี้การลดใช้แสงโดยเปิดช่องรับแสงธรรมชาติ แทนการติดตั้งโคมไฟก็ช่วยทั้งประหยัดไฟและลดความร้อนจากตัวแสงไฟลงได้ ไม่ควรสร้างลานคอนกรีตรอบบ้าน เพราะเป็นตัวสะสม สะท้อน และคลายความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ควรทำสนามหญ้า ปลูกต้นไม้คลุมดิน นอกจากช่วยให้ร่มรื่น สบายตา ยังช่วยป้องกัน ฝุ่นจากดินแห้ง หรือเลือกใช้บล็อกสนามที่หญ้าสามารถขึ้นได้สุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาแก่ตัวบ้าน ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ