วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2556

คอนโด บทความรีไซเคิลเฟอร์นิเจอร์เก่าให้เก๋าไม่ยาก [www.cmc.co.th]

บทความนำมาจาก http://www.cmc.co.th/

Ideas เปลี่ยนโฉมเฟอร์นิเจอร์เก่าให้เก๋

1. IDEA เพ้นท์ภาพบนผ้าหุ้ม
ถ้า บ้านคุมีเฟอร์นิเจอร์บุผ้าเรียบอยู่แล้ว สามารถแปลงโฉมให้ดูเก๋ได้ด้วยการเพ้นท์ภาพวาดสร้างลวดลายจากสีอะคริลิค หรือจะใช้ปากกาเพ้นท์ผ้าที่ใช้ได้ง่ายไม่เลอะเทอร ทำให้คุณสนุกกับการวาดลวดลาย โชว์ฝีมือไปบนเฟอร์นิเจอร์ตัวโปรดได้ตามจินตนาการ

2. IDEA ย้อมหวาย
เรา สามารถเพิ่มสีสันให้กับเฟอร์นิเจอร์หวายได้ เพียงนำมาทาด้วยสีน้ำมัน สีน้ำพลาสติกที่ใช้สำหรับงานไม้ หรือสีพ่นอุตสาหกรรมก็ได้ แต่อย่าลืมเลือกหาเบาะรองนั่งสีสดใสให้เข้าชุดกันด้วย

3. IDEA โมเสกแก้วปูท๊อป
เก้าอี้ ที่อยู่ในพื้นที่เปียกชื้นอย่างห้องน้ำหรือภายนอกบ้าน วัสดุที่เหมาะต่อการนำมาตกแต่งต้องทนทาน อย่างเช่น กระเบื้องโมเสก หรือเศษกระเบื้องแตกๆ โดยใช้ปืนกาวติดตกแต่งท็อปเก้าอี้แล้วลงยาแนวสีขาวลงในร่องกระเบื้อง ก็สวยเก๋ตามสไตล์บ้านชายทะเลแล้ว

4. IDEA เบาะหลากสี
ถ้า คุณเป็นคนขี้เบื่อ ลองทำเบาะของโซฟาให้ปรับเปลี่ยนได้ง่าย ด้วยการหุ้มเบาะด้วยผ้าที่แยกชิ้นถอดซักได้ โดยเลือกผ้าหุ้มที่คละสีคละลาย จะทำให้เราสนุกกับการจัดเรียงได้ที่ตามต้องการ

5. IDEA เก้าอี้เหล็กสีสด
เก้าอี้ เหล็กร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วๆ ไป เราสามารถแปลงโฉมให้ดูเก๋ขึ้นได้ไม่ยากด้วยสีสเปร์ย หรือสีน้ำมันสำหรับงานเหล็ก โยให้พ่นหรือทาสีขาวรองพื้นก่อน แล้วทับด้วยสีที่ต้องการ แต่ถ้าอยากให้สีสดติดทนทาน แนะนำให้พ่นด้วยสีพ่นอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถให้ช่างสีเฟอร์นิเจอร์ทั่วไปทำให้ได้

6. IDEA หุ้มผ้ายืดหมุดใหม่
แปลง เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดิมให้สวยแปลกตา ด้วยการบุเบาะด้วยผ้าลายสวยๆ แล้วใช้หมุดเหล็กตอกยึดให้ตึง โดยเราอาจเพิ่มลูกเล่นได้ด้วยการเรียงหมุดให้เป็นลวดลายบนผ้า หรือใช้ปืนกาวตกแต่งประดับลูกปัดไปด้วยก็ได้

7. IDEA จับคลุมถุง
เก้าอี้ ไม้นั้นให้ความรู้สึกแข็งกระด้างเวลานั่ง สามารถปรับให้นุ่มนวลขึ้นด้วยการเย็บถุงผ้าหุ้มส่วนที่นั่งเอาไว้ แนะนำให้เลือกผ้าเนื้อหนานุ่ม หรือจะบุใยสังเคราะห์ภายในเพิ่มก็ได้จะช่วยให้นั่งสบายขึ้น

ที่มา: Room Magazine

คอนโด บทความเล่นสาย (ไฟ)

บทความนำมาจาก http://www.cmc.co.th/

คุณเคยรู้สึกขัดหูขัดตาบ้างไหม เมื่อมองเห็นสายไฟยาวๆ จากเครื่องใช้ไฟฟ้า สายเคเบิ้ล หรือสายโทรศัพท์ ภายในบ้านที่คุณห้อยระโยงระยาง ไม่ก็พันกันจนยุ่งเหยิงไปหมด ถึงแม้จะจับมัดรวมกันแล้วก็ยังดูไม่สวยงามอยู่ดี วันนี้เรามีไอเดียเจ๋งๆ ในการจัดเก็บสายไฟในบ้านคุณด้วยการเปลี่ยนวิกฤติเป็โอกาส กับวิธีง่ายๆ แต่สุดเจ๋งที่รับรองว่าจะต้องถูกใจคุณแน่ๆ

การเตรียมตัวก็ ไม่ได้มีอะไรมาก ขอเพียงแค่บ้านของคุณมีพื้นที่บนผนังสักหน่อย บวกกับจินตนาการอีกสักเล็กน้อย จากนั้นก็ตระเตรียมอุปกรณืให้พร้อมทั้งดินสอ ค้อน เทปกาว และกริปจับสายไฟ ถ้าทุอย่างพร้อมแล้วก็เริ่มลงมือกันได้เลย

ขั้นตอนที่ 1 ใช้จินตนาการวาดภาพคร่าวๆ บนผนังบริเวณที่เป็นต้นกำเนิดของสายไฟ โดยจะต้องคำนึงถึงขนาดของพื้นที่ว่างบนผนังและความยาวของสายไฟเป็นสำคัญ

ขั้นตอนที่ 2 เมื่อได้ภาพร่างของสายไฟบนผนังแล้วก็ถึงเวลาแสดงฝีมือ ด้วยการใช้ดินสอร่างภาพในจินตนาการลงบนผนังได้เลย

ขั้นตอนที่ 3 เริ่มเดินสายไฟไปตามเส้นี่ร่างเอาไว้ โยใช้เทปกาวยึดเอาไว้ชั่วคราว เพื่อใหยังสามารถขยับหรือปรับแต่งได้ตามสะดวก

ขั้นตอนที่ 4 เมื่อได้ตำแหน่งของสายไฟที่ต้องการแล้ว จึงใช้กริปจับสายไฟตอกลงบนผนังเพื่อยึดสายไฟให้ติดแน่นอยู่บนผนัง โดยในขั้นตอนนี้เราอาจใช้จังหวะในการเว้นระยะห่างของกริปเพื่อเสริมลูกเล่น ให้กับลวดลายของสายไฟได้อีกด้วย

เพียงเท่านี้ลวดลายสวยๆ บนผนังแบบไม่เหมือนใคร แถมยังขจัดปัญหาเรื่องสายไฟรกๆ ได้อีกด้วย ใครที่เคยบ่นเรื่องสายไฟจากเครื่องใช้ไฟฟ้าว่าให้มาทำไมยาวหนักหนา คราวนี้อาจจะต้องเปลี่ยนมาบ่นว่าทำไมให้สายไฟมาสั้นเกินไปก็ได้

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความ เรียนรู้วิธีกำจัดมุมอับทึบ [www.cmc.co.th]



บทความนำมาจาก http://www.cmc.co.th/

ไอเดียกำจัดมุมอับทึบ
มุมอับทึบยอดนิยมในบ้านมัก หนีไม่ พ้นพื้นที่ใต้บันได ห้องน้ำ ห้องครัว ซอกทางเดินและผนังที่ดูทึบตันจนอึดอัดใจ มาดูไอเดียช่วยแก้ไขมุมอับทึบให้ดูโปร่งและเปลี่ยนพื้นที่กระทัดรัดให้น่า อยู่ขึ้น

1. แก้ไขมุมอับห้องน้ำใต้บันไดที่ท้องบันไดจะเอียงและเตี้ย ด้วยการกรุกระจกแล้วติดไฟเพดานช่วยลดความอึดอัด อีกทั้งกรุกระจกเงานบานใหญ่และใช้อ่างล้างหน้าแบบใส ทำให้ห้องดูโปร่งขึ้น พร้อมทั้งขยายพื้นที่ด้านข้าวให้เป็นส่วนอาบน้ำกลางแจ้งแล้วกั้นด้วย ประตูกระจกใส เพื่อให้แสงสว่างส่องเข้ามาและระบายอากาศได้ดีขึ้น

2. ออกแบบผนังห้องครัวด้านที่ติดห้องอื่นให้ดูโปร่ง ด้วยการขึงด้วยแผ่นไวนิลสีขาวที่สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ให้เต็มผนัง (ไม่ควรใช้ด้านที่เป็นเตาไฟ) พร้อมทั้งซ่อนไฟทำให้แสงจากอีกห้องส่องผ่านมาได้ ผนังจึงดูสว่างทั้งผืน แล้วแขวนชั้นสเตนเลสดีไซน์โปร่งตาแทนการทำตู้บิลท์อิน ก็กลายเป็นอีกมุมที่ดูสบายตาขึ้น

3. เบี่ยงเบนความสนใจของทางเดินเล็กๆ ด้วยการติดวอลลฺเปเปอร์ที่มีลวดลายโดดเด่น แล้วสร้างจุดสนใจที่สุดปลายทางเดิน อย่างการติดรูปที่มีสีสันสะดุดตา ก็ทำให้บริเวณที่เคยรู้สึกเป็นมุมอับและแคบดูน่ามองยิ่งขึ้น

4. เพิ่มความโปร่งให้ห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องแต่งตัว ด้วยการเชื่อมต่อให้เป็นห้องเดียวกัน แล้วแบ่งสัดส่วนด้วยผนังระแนงไม้ พร้อมทั้งลดระดับพื้นห้องน้ำลง 10 เซนติเมตร และแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งให้ชัดเจนเพื่อป้องกันน้ำกระเด็นเลอะเทอะ ก็ทำให้ห้องเล็กกลายเป็นห้องใหญ่ขึ้น

5. ทำมุมเก็บของในช่องทางเดินแคบๆ ให้ดูไม่ทึบตัน ด้วยการทำตู้เก็บของสูงจากพื้น 15-20 เซนติเมตร สำหรับวางรองเท้าและซ่อนไฟทำให้ตู้ดูลอย ส่วนตู้ไม่ควรทำสูงเต็มผนังเพราะจะทำให้ดูอึดอัด แต่เว้นพื้นที่ผนังส่วนบนทำเป็นบอร์ดแผ่นเหล็กพ่นสีดำ ใช้ติดรูปหรือข้อความ ก็จะดูโปร่งและมีมิติมากกว่า

6. ลดความทึบตันของผนังทึบกั้นห้อง ด้วยการทำฝ้าเพดานซ่อนไฟยาวตลอดแนวผนัง อีกทั้งเจาะช่องเปิดด้านบนเพื่อช่วยระบายอากาศภายในห้อง ก็ทำให้ผนังดูโปร่งขึ้นแต่ยังคงความเป็นส่วนตัวไว้เช่นเดิม

7. เปลี่ยนใต้บันไดไม่ให้เป็นมุมอับ ด้วยการทำชานพักให้สูงอย่างน้อย 50 เซนติเมตรจากระดับพื้น แล้วจึงทำบันไดแบบโปร่งขึ้นไปชั้นบน ก็สามารถใช้เป็นพื้นที่เก็บของหรือมุมนั่งอ่านหนังสือสบายๆ ได้ โดยที่ไม่ต้องก้มตัวมากนัก

บทความตกแต่งบ้านแบบเท่ห์แถมสบายกระเป๋า [www.cmc.co.th]

คอนโด เว็บคอนโด ขายคอนโด คอนโดใหม่ บทความ Garden in my home



บทความนำมาจาก http://www.cmc.co.th/

ไอเดียเท่... สบายกระเป๋า

1. ย้อมไม้เพิ่มมูลค่า
เฟอร์นิเจอร์ ไม้ไผ่หรือไม้เก่าๆ ที่ดูไม่มีค่า แค่เนมาทาทับด้วยสีน้ำมัน หรือพ่อนสีเคลือบเงาด้วยสีสดๆ ก็กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์โมเดิร์นในที แถมประหยัดงบอีกด้วย 2.โคมไฟสารพัดแบบ อะไหล่รถ โหลแก้ว ภาชนะต่างๆ ที่เหลือใช้หากมีรูปทรงสวยถูกใจ ลองนำมาใช้แทนโป๊แก้วแล้วใส่หลอดไว้ด้านใน กลายเป็นโคมไฟรูปทรงแปลกตา ใช้แขวนตกแต่งบ้าน จะติดเพียงชิ้นเดียวหรือแขวนไล่ระดับเหนือโมบายก็ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ

2. โคมไฟสารพัดแบบ
อะไหล่ รถ โหลแก้ว ภาชนะต่างๆ ที่เหลือใช้หากมีรูปทรงสวยถูกใจ ลองนำมาใช้แทนโป๊ะแก้วแล้วใส่หลอดไฟไว้ด้านใน กลายเป็นโคมไฟรูปทรงแปลกตา ใช้แขวนตกแต่งบ้าน จะติดเพียงชิ้นเดียวหรือแขวนไล่ระดับเหมือนโมบายก็ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ

3. หัวก๊อกไม้ไผ่
ใคร อยากมีห้องน้ำบรรยากาศรีสอร์ต ลองต่อท่อน้ำให้ยื่นออกจากผนัง แล้วสวมทับด้วยกระบอกไม้ไผ่ตัดปลายเฉียงที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใกล้ เคียงกับท่อน้ำ จากนั้นติดไม้ไผ่กับท่อน้ำด้วยกาวซิลิโคนป้องกันสิ่งสกปรก เท่านี้ก็ได้ก๊อกน้ำสไตล์รีสอร์ตแล้ว

4. เปลี่ยนเปลือกเคาน์เตอร์
เฟอร์นิเจอร์ ตัวเก่าที่ผิวหน้าลอกผุพังแต่โครงไม้อัดยังมีสภาพดีอยู่ เราสามารถกรุแผ่นฟอร์เมก้าที่มีสีสันและลวดลายธรรมชาติสวยๆ ได้ไม่จำกัด ซึ่งมีผิวพื้นผิวเลียนแบบวัสดุต่างๆ ให้เลือกมากมาย เช่น เหล็ก หิน สนิม นอกจากนั้นยังสามารถสั่งพิมพ์ภาพอื่นๆ ได้ตามต้องการด้วย

5. ตัดต่อลายผ้า
ผ้า หุ้มเฟอร์นิเจอร์ไม่จำเป็นต้องเป็นผ้าใหม่เอี่ยมเสมอไป ลองหาเศษผ้าที่เหลือจากงานตัดเย็บต่างๆ มาเย็บรวมกันเป็นผืนผ้าลายสดใสใช้หุ้มโซฟา ปลอกหมอน และผ้าม่านได้ตามใจชอบ กลายเป็นผลงานชุดเดียวที่ไม่ซ้ำแบบใคร

6. กรุผนังด้วยผ้าเหลือใช้
นอก จากแต่งผนังด้วยวอลล์เปเปอร์แล้ว เราสามารถนำผ้าลายสวยๆ มาตกแต่งเป็นผนังได้ด้วย แค่กรุผ้าลงบนแผ่นไม้อัดที่หนา 5 มิลลิเมตร แล้วนำไปกรุผนัง ปิดคิ้วเก็บขอบงานให้เรียบร้อย แค่นี้เราก็ได้ผนังลายสวยจากผ้าชิ้นโปรดแล้ว

7. ลูกกรงพับได้
สำหรับ บ้านที่ไม่ชอบเหล็กดัดปิดทึบเหมือนขังตัวเองเอาไว้ในห้อง ลองใช้บานับเหล็กที่ใช้กับหน้าร้านตึกแถวมาติดแทน เพราะมันสามารถเลื่อนพับเก็บบในช่วงที่ต้องการเปิดหน้าต่างออกไปภายนอกให้สด เฃชื่นและปิดเวลาต้องการความปลอดภัยตอนกลางคืน

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความจัดโต๊ะอาหาร 2 คู่สี 2 สไตล์ [www.cmc.co.th]

คอนโด เว็บคอนโด ขายคอนโด คอนโดใหม่ บทความ Garden in my home


บทความนำมาจาก http://www.cmc.co.th/

จัดโต๊ะอาหาร 2 คู่สี 2 สไตล์

หวานละมุน
หาก คุณชอบบรรยากาศของต๊ะรับประทานอาหารที่ดูอ่อนหวานแบบผู้หญิง ลองเลือกใช้ของตกแต่งที่มีโทนสีพาสเทลอย่างสีชมพูและสีม่วงอ่อนก็ไม่เลว โดยเริ่มจากหาผ้ารองจานที่มีขอบทรงโค้งมนสีชมพูอ่อนผสมกัผ้าไหมคาดโต๊ะที่มี ลวดลายอ่อนหวาน ปักด้วยลูกปัดหรือหินสีต่างๆ วางซ้อนกันเป็นการมิกซ์อนด์แมตระหว่างสไตล์คลาสสิคกับสไตล์ไทยเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งความแตกต่างกันนี้เองจะช่วยทำให้โต๊ะรับประทานอาหารของคุณดูมีเสน่ห์มาก ยิ่งขึ้น

จากนั้นเพิ่มของตกแต่งอื่นๆ เช่น กระถางดอกไม้และถาดวางขนมที่ทำจากลวดตัดสีขาวลงไป เพื่อเพิ่มความสูงต่ำให้กับโต๊ะจะทำให้โต๊ะของคุณดูมีมิติไม่เรียบแบน และที่ขาดไม่ได้คือถ้วยกาแฟและจานชามลายดอกไม้ที่จะช่วยเพิ่มชีวิตชีวามาก ยิ่งขึ้น สวนจานชามต่างๆ แนะนำให้เลือกชนิดที่เป็นสีพื้นที่มีขอบหยักเพียงเล็กน้อย เพิ่มเทียนหอมและดอกไม้ต่างๆ จะยิ่งช่วยทำให้โต๊ะรับประทานอาหารดูอ่อนหวานและมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

โก้ หรู
หาก คุณชอบสไตล์โก้ หรู มีระดับ เรามีอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจโดยไม่จำเป็นต้องใช้สีทองอร่ามเสมอไป แนะนำให้ใช้คู่สีอมตะอย่างสีขาว เทา และดำเป็นหลักบนโต๊ะอาหารของคุณ และเน้นวัสดุที่มีผิวมันวาวช่วยสะท้อนแสงระยิบระยับ ของแสงเทียบได้เป็นอย่างดี โดยเริ่มจากนำผ้าขาวดำ และสีเทาเรียบ ซึ่งการใช้ผ้าหลากสีแต่ยังอยู่ในโทนสีเดียวกันนั้นจะช่วยเพิ่มมิติบนโต๊ะรับ ประทานอาหารของคุณได้ จากนั้นตกแต่งด้วยแก้วเจียระไนสูงโปร่งหรือคริสตัลต่างๆ ก็จะช่วยทำให้โต๊ะดูหรูมากยิ่งขึ้น

ส่วนจานชามควรเลือกผสมผสานกัน ระหว่างจานที่มีลวดลายและจนชามที่เป็นสีเรียบ หรือแบบมีผิวมันวาวอย่างสแตนเลสก็ได้ แนะนำว่า ที่ขาดไม่ได้สำหรับสไตล์นี้คือเชิงเทียนสูงโปร่ง จะเลือกใช้แบบเดียวหรือแบบคู่ก็ได้ไม่ว่ากัน ลองเพิ่มสีสันอีกนิดด้วยการนำดอกไม้โทรสีขาว หรือจะเป็นกิ่งไม้มาปักในแจกันแก้วทรงสูง เท่านี้โต๊ะรับประทานอาหารของคุณก็จะดูโก้หรูแถมยังดูสดชื่นไปพร้อมๆ กัน

ที่มา: Roommag

บทความไอเดียแปลกใหม่ใช้สีตกแต่งบ้าน [www.cmc.co.th]

คอนโด เว็บคอนโด ขายคอนโด คอนโดใหม่ บทความ Garden in my home


บทความนำมาจาก http://www.cmc.co.th/

การใช้สีแต่งบ้านนอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว ยังเป้นวิธีหนึ่งในการออกแบบที่ช่วยให้พื้นที่ต่างๆ ในบ้านมีจุดสนใจ ช่วยแบ่งพื้นที่การใช้สอย หรือช่วยอำพรางสายตาได้ด้วย มาดู 12 ไอเดียใช้สีช่วยออกแบบบ้านให้น่าสนใจและเกิดประโยชน์มากขึ้น

01 ใช้สีสร้างลวดลายด้วยการใช้เทคนิคสเตนชิล (stencill) โดยเจาะสติ๊กเกอร์เป็นช่องตามลวดลายที่ต้องการ แล้วทาด้วยสีที่มีคุณสมบัติเรืองแสงในเวลากลางคืน คล้ายกับพรายน้ำบนหน้าปัดนาฬิกา ซึ่งหาซื้อได้ที่ร้านขายสีทั่วไป ก็ทำให้ตู้เรียบๆ เรืองแสงเป็นลวดลายในตอนกลางคืน แถมยังสังเกตง่ายป้องกันไม่ให้เดินชนอีกด้วย

02 ใช้เทคนิคผสมแสสีเปลี่ยนบรรยากาศห้อง ด้วยการทาห้องสีม่วงแล้วใช้โคมไฟที่ให้แสงสีส้ม เมื่อเปิดไฟก็จะทำให้ห้องเปลี่ยนเป็นสีแดงแรงฤทธิ์ในฉับพลัน เป็นการเปลี่ยนสีห้องโดยไม่ต้องทาสีใหม่

03 สร้างความโดดเด่นให้เฟอร์นิเจอร์ ด้วยการทำผนังด้านหลังให้สีตัดกัน อย่างเฟอร์นิเจอร์สีอ่อนกรุผนังด้วยเหล็กที่ทาทับด้วยแล็กเกอร์ชนิดด้านที่ ดูเข้มขรึมสวยแปลกตา แล้วเลือกหมอนที่มีลวดลายสีดำให้เข้ากับผนังเหล็ก ช่วยเน้นให้เฟอร์นิเจอร์ดูเด่นขึ้นแต่ก็เข้ากันได้อย่าลงตัว

04 หากในห้องมีของเยอะลองใช้สีช่วยอำพรางตา ด้วยการทาผนังในโทนเดียวกับของที่วางอยู่ อย่างการทาผนังสีฟ้าเทาให้เข้ากับกล่องเก็บของและเฟอร์นิเจอร์ไม้ ก็ทำให้ของที่วางอยู่ไม่ดูเด่นจนรู้สึกเกะกะสายตา

05 ใช้สีไสตล์เมดิเตอร์เรเนียน ด้วยการทำผนังปูนฉาบไม่เรียบสีฟ้าน้ำทะเลที่ทาไล่โทนเข้มอ่อน ช่วยหลอกตาให้ห้องดูลึกขึ้น และมีสีสันไม่น่าเบื่อ แล้วตัดด้วยสีเหลืองซึ่งเป็นสีคู่ตรงข้ามช่วยให้ดูมีมิติสดใสขึ้น

06 ใช้สีเป็นจุดสังเกตพื้นต่างระดับในบ้านไม้ ด้วยการย้อมสีพื้นบันไดไม้ให้สีเข้มกว่าผนังและพื้นบ้าน ก็ช่วยให้มองเห็นได้ง่ายไม่ต้องกลัวเดินสะดุด ทั้งยังให้ผิวสัมผัสที่สบายเท้าและคงความรู้สึกอบอุ่นของบ้านไม้

07 เลือกใช้วัสดุที่มีสีเฉพาะตัวมาตกแต่งบ้านให้โดดเด่น ด้วยการใช้แผ่นทองแดงหรือแผ่นลามิเนตผิวทองแดงหุ้มขั้นบันไดที่ยื่นลอยออกมา จากผนัง ทำให้ดูคล้ายงานประติมากรรมหล่อโลหะเหล็กสีดำ และผนังปูนเปลือยดิบๆ ยังช่วยขับให้สีแดงดูเด่นขึ้น

ที่มา: Roommag

บทความ Smart Mix ฉลาดแต่งบ้านแบบไม่ต้องจ่ายแพงทั้งห้อง [www.cmc.co.th]

คอนโด เว็บคอนโด ขายคอนโด คอนโดใหม่ บทความ Garden in my home
บทความนำมาจาก http://www.cmc.co.th/
การตกแต่งบ้านในอดีตนิยมเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ดูเข้าชุดกัน ไม่ว่าจะเป็นโทนสี หรือวัสดุ แต่ปัจจุบันโลกแห่งการออกแบบเปิดกว้างมากขึ้น จึงมีการผสมผสานระหว่างเฟอร์นิเจอร์หลายๆ สไตล์เอาไว้ในห้องเดียว ผสมผสานทั้งของราคาแพงและของราคาถูกได้อย่างน่าสนใจและถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ ชื่นชอบการแต่งบ้านสไตล์ดิบ เท่ห์ แต่ก็ยังอยากได้ความอบอุ่นและหรูหราไปพร้อมๆ กันแบบนี้ วันนี้เรามีไอเดียแต่งบ้าน 3 มุม ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องควักกระเป๋าจ่ายในราคาแพง ทั้งห้อง รับรองว่าถูกใจหลายๆ คนแน่นอนค่ะ

A. โซฟาสไตล์คลาสสิค จับคู่กับ ลังไม้พาเลท
ใคร จะคิดว่าโซฟาคลาสสิคสุดหรูจะสามารถอยู่กับลังไม้พาเลทธรรมๆ ได้ คุณเองก็คงคิดไม่ถึงเหมือนกันใช่ไหมล่ะ โซฟาหนังคุณภาพดีที่มีความสวยเนี๊ยบในตัวอยู่แล้ว ก็สามารถเข้ากับห้องสไตล์ดิบและเท่ได้ ก็แค่ลองเปลี่ยนโต๊ะข้างสไตล์เรียบหรูเป็นลังไม้พาเลทธรรมดาขนาดประมาณ 50x50x50 เซนติเมตร จำนวน 2 ใบ จับมาวางซ้อนกัน ใชเทนโต๊ะข้างทั่วๆ ไป ลังไม้นี้ช่วยทำให้ห้องดูน่าสนใตมากขึ้น แถมยังใช้งานได้ดีไม่ต้องคอยระมัดระวังให้ยุ่งยากอีกด้วย

ออกแบบให้ ผนังดูดิบด้วยการก่ออิฐโชว์แนวเพื่อโชว์พื้นผิวและเนื้อแท้ของวัสดุ หรือใช้เป็นผนังปูนซีเมนต์ขัดมันก็ได้ แต่ถ้าหากใครอยากเพิ่มธรรมชาติเข้ามาภายในห้องก็สามารถเลือกใช้วอลล์เปเปอร์ รูปวิวทิวทัศน์สไตล์ย้อนยุคสักนิดก็ได้ไม่ว่ากัน

B. อาร์มแชร์หนังแท้สุดเท่ จับคู่กับ ชั้นเหล็กแสนทนทาน
สำหรับ คนที่รักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ คงอยากได้มุมเล็กๆ สักมุมไว้สำหรับอ่านหนังสือ แนะนำให้เลือก เราจับคู่อารืมแชร์หนังแท้สีแดงเข้มที่ดูทันสมัยกับชั้นเหล็กธรรมดาที่มีขาย ทั่วไปตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ มาไว้ด้วยกันโดยอาร์มแชร์หนังนี้เองจะช่วยลดความดิบของตัวชั้นวางของ ทำให้ห้องดูอบอุ่นน่านั่งมากยิ่งขึ้น

ชั้นวางของแบบนี้รองรับน้ำหนัก ได้มากอย่างคาดไม่ถึงทำให้คุณสามารถใช้วางหนังสือได้เต็มที่มี แนะนำให้ตกแต่งชั้นอีกนิดด้วยการหาซื้อกล่องใส่ของหรือที่ใส่เอกสารต่างๆ ที่มีดีไซน์จะช่วยทำให้ชั้นนี้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น อีกเคล็ดลับที่ขาดไม่ได้คือการประกอบชั้นให้ช่องว่างสำหรับวางของแต่ละชั้น มีช่องไฟไม่เท่ากัน เท่านี้ชั้นธรรมดาๆ ก็ดูเก๋แล้วล่ะ

สำหรับผนัง ห้องหากคุณไม่ชอบสีของอิฐมอญหรือปูนซีเมนต์ขัดมัน จะลองใช้ผนังที่กรุด้วยไม้ทำสีขัดเสี้ยนก็จะทำให้ความรู้สึกที่ดูอ่อนโยนมาก ขึ้นแต่ยังแฝงไว้ด้วยความดิบเท่อยู่เหมือนกัน

C. ม้านั่งไม้เก่า จับคู่กับ ตู้เหล็กที่ดูทันสมัย
บริเวณ ทางเข้าหน้าบ้านที่เต็มไปด้วยรองเท้าและของใช้ต่างๆ ลองมาจัดระเบียบและแต่งให้ดูสวยเก๋ด้วยการหาตู้ใส่รองเท้าที่มีฟังก์ชั่น เป็นตู้เก็บของได้ด้วยอย่างตู้ลอคเกอร์ใบนี้ แข็งแรงทนทานแถมภายในยังมีชั้นปรับระดัให้คุณสามารถเก็บได้ทั้งรองเท้ารวมไป ถึงเอกสารหรือของใช้ได้อีกด้วย จับคู่กับม้านั่งไม้เก่าสไตล์ย้อนยุค ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับมุมนี้ได้มากทีเดียว แถมยังใช้นั่งใส่รองเท้าได้แบบสบายๆ

อย่าลืมเพิ่มเติมฟังค์ชั่นการ ใช้งานอีกนิดด้วยการหาบอร์ดสวยๆ มาวางหรือแขวนไว้ใช้ติดโน๊ตหรือข้อความต่างๆ ได้อีกอ้วย ส่วนบริเวณผนังหลังม้านั่งนำขอแขวนต่างๆ มาติดไว้ใช้แขวนหมวกหรือเสื้อคลุมต่างๆ สะดวกใช้งานสุดๆ ล่ะทีนี้

ผนังบริเวณนี้อาจทาด้วยสีน้ำพลาสติกสีดำหรือสีเทาเข้มชนิดลบและทำความสะอาดได้ ใช้จดข้อความต่างๆ ได้แถมยังดูดิบและเท่มากขึ้นอีกด้วย

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความเนรมิตรห้องนั่งเล่นสไตล์ธรรมชาติ [www.cmc.co.th]

คอนโด เว็บคอนโด ขายคอนโด คอนโดใหม่ บทความ Garden in my home


บทความนำมาจาก http://www.cmc.co.th/

แต่งห้องนั่งเล่น อารมณ์ธรรมชาติ

วันนี้เรามี ไอ เดียการตกแต่งห้องนั่งเล่น ที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ ห้องนั่งเล่นห้องนี้จะช่วยทำให้คุณและครอบครัวดูสดชื่นแจ่มใส เหมือนนั่งอยู่ในสวนสวยท่ามกลางดอกไม้นานาพรรณ

A. ลวดลายจากธรรมชาติ
ลวด ลายที่จะช่วยเสริมบรรยากาศสบายๆ ให้กับห้องนั่งเล่นได้เป็นอย่างดี ก็คือลวดลายจากธรรมชาติ คุณสามารถสร้างลวดลายเหล่านี้ได้ด้วยการเพนท์รูปภาพที่ผนัง หรือวิธีง่ายๆ ด้วยการติดวอลล์เปเปอร์ลายกิ่งไม้ หรือดอกไม้ วอลล์เปเปอร์ rasch series Woodland no.710 731 (สอบถามราคาได้ที่ Bangkok Wallpaper โทร.0-2746-8899)

B. เลือกใช้สีสบายตา
ห้อง นั่งเล่นเป็นห้องหนึ่งที่เราใช้เวลาส่วนใหญ่ทำกิจกรรมร่วมกันเป็นเวลานาน ถ้าอยากได้ห้องนั่งเล่นที่ดูสดชื่นอยู่ตลอดทั้งวัน ก็ควรเลือกใช้โทนสีที่ดูอบอุ่นและสบายตา สีที่จะช่วยทำให้บ้านเย็นและดูสบายตา ได้แก่ โทนสีฟ้าและสีเขียว โดยวันนี้เราเลือกใช้โทนสีเขียวอ่อนทาที่ผนังห้อง ลองเลือกใช้สี Supershield Duraclean no.7678 จาก TOA

C. เพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้และดอกไม้
ไอ เดียง่ายๆ ที่ช่วยทำให้ห้องนั่งเล่นของคุณดูสดชื่นมากยิ่งขึ้น ก็คือ การนำต้นไม้และดอกไม้ประดับตกแต่งนั่นเอง เช่น นำกรอบรูปเก่าๆ มาดัดแปลงเป็นที่แขวนต้นไม้ด้วยการนำลวดมาขึงที่ด้านหลังของเฟรมกรอบรูปให้ มีขนาดพอเหมาะ เพื่อใส่ต้นไม้เลื้อยต่างๆ ก็ดูเข้าที ส่วนแจกันดอกไม้ก็ไม่ต้องไปหาซื้อให้ยุ่งยาก ลองนำแก้วน้ำหรือขวดแยมผลไม้ที่ใช้แล้วมาดัดแปลงเป็นแจกัน เท่านี้ก็สร้างความสดชื่นให้กับห้องได้ในราคาสุดแสนประหยัด

ที่มา: RoomMag

บทความบ้านสวยได้ด้วยรูปภาพ [www.cmc.co.th]



บทความนำมาจาก http://www.cmc.co.th/
คงอาจจะคุ้นเคยกับรูปภาพสวยๆ ที่อยู่แต่ในกรอบ สี่เหลี่ยมบ้าง วงกลมบ้าง แต่วันนี้เรามีไอเดียเก๋ ที่จะทำให้รูปสวยๆ เหล่านั้น ไม่ต้องอยู่แต่ในกรอบอีกต่อไป

01. เฟรมลายจาน
ลอง นำจานลายสวยๆ ที่เข้าชุดกันมายึดขอเกี่ยวด้านหลังด้วยกาวอีพ็อกซี่ชนิดติดงานเซรามิก จากนั้นนำไปจัดเรียงต่อลายให้เป็นรูปภาพขนาดใหญ่ ใช้ตกแต่งห้องก็ดูเก๋ไปอีกแบบ แต่ถ้ายังหาจานที่มีลวดลายถูกใจไม่ได้ เราสามารถสั่งพิมพ์รูปภาพสวยๆ ลงสติกเกอร์ใสแล้วติดลงบนจานแทนก็ได้เช่นกัน

02. วอลล์โปสเตอร์
ตกแต่ง ผนังห้องให้กลายเป็นผนังที่เต็มไปด้วยภาพขนาดเท่าๆ กัน หรือติดโปสเตอร์ที่ชอบจนเต็มผนัง ด้วยการจัดวางองค์ประกอบภาพให้ซ้ำๆ กัน หรือจะใช้ภาพที่มีโทนสีคล้ายๆ กันมาวางต่อกัน วิธีนี้ช่วยเปลี่ยนผนังห้องที่ดูเรียบโล่งให้กลายเป็นภาพศิลปะขนาดใหญ่ที่ดู คล้ายวอลล์เปเปรอ์ลายสวยได้ไม่ยาก

03. รูปสติ๊กเกอร์
ตกแต่ง ประตูห้องทั้งบานด้วยสติ๊กเกอร์อิงค์เจ็ตให้กลายเป็นรูปภาพขนาดใหญ่เสริมให้ ประตูห้องดูสวยโดดเด่น ทั้งยังมีประโยชน์ใช้สอยในตัวด้วย แต่เทคนิคนี้จะเหมาะกับการใช้งานภายในห้องเท่านั้น หากเป็นประตูภายนอกบ้านหรือห้องที่มีความชื้นสูงอย่างห้องน้ำแนะนำให้ใช้การ พิมพ์ลายลงบนแผ่นฟอร์เมก้าและกรุบนประตูจะทนทานกว่า

04. กรบรูปแม่เหล็ก
เปลี่ยน ผนังให้กลายเป็นบอร์ดแม่เหล็กทั้งด้าน ด้วยการกรุแผ่นเหล็กหนา 3 มิลลิเมตร พ่นสีดำด้านกันสนิมกรุบนผนังไม้แล้วติดรูปภาพที่ชื่นชอบด้วยแม่เหล็ก เพื่อให้ผนังกลายเป็นกรอบรูปขนาดใหญ่ วิธีนี้ช่วยให้เราสามาถเพิ่มรูปหรือปรับเปลี่ยนตำแหน่งรูปได้ง่ายขึ้น

05. ภาพแยกส่วน
อีก เทคนิคหนึ่งที่ช่วยเปลี่ยนผนังที่ดูเรียบโล่งให้สวยแปลกตาขึ้นก็คือการจัด เรียงรูปภาพแบบต่อเนื่องกันเหมือนการต่อภาพจิ๊กซอว์ หรือถ้าใครมีภาพถ่ายขนาดใหญ่หรือผ้าลายสวยผืนใหญ่ ก็สามารถนำไอเดียเก๋ๆ นี้ไปลองใช้ดูก็ได้

06. ภาพกั้นห้อง
ปรับฉาก กั้นห้องที่ดูเก่าน่าเบื่อด้วยงานพิมพ์ภาพลงบนสติ๊กเกอร์ หรือวาดภาพที่ชื่นชอบลงไปที่ฉากกั้นก็ได้ นอกจากจะช่วยบังมุมมองที่ไม่สวยงามแล้ว ยังช่วยเปลี่ยนให้ฉากกั้นกลายเป็นมุมที่สวยเด่นขึ้นมาแทนที่

07. ภาพในกรอบเหล็ก
หาก คุณมีถาดเหล็กหรือภาชนะต่างๆ ที่มีก้นตื้นที่ไม่ใช้แล้ว เราสามาถนำมาดัดแปลงด้วยการวาดภาพหรือตัดรูปภาพให้พอดีกับขนาดของก้นถาดแล้ว แปะรูปลงไป จากถาดเหล็กก็กลายมาเป็นรูปภาพสวยๆ ใช้ตกแต่งผนังแทนกรอบรูปสี่เหลี่ยมธรรมดาที่ดูน่าเบื่อได้ไม่ยาก

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความ 12 ไอเดียวิธีเก็บของ [www.cmc.co.th]

บทความจาก www.cmc.co.th

ยิ่งอยู่ในบ้านนานๆ ของใช้ต่างๆ ก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น นี่คือกลเม็ดการจัดเก็บของที่ช่วยให้บ้านเป็นระเบียบและน่าอยู่มากขึ้นกว่าเดิม

01. ใช้พื้นที่เปล่าประโยชน์อย่างใต้บันไดไว้เก็บของ เซาะร่องหน้าบานไม้เป็นลายกราฟฟิก แล้วทาสีน้ำมันหรือสีพ่นแห้งเร็วสีขาว ให้กลายเป็นผนังตกแต่งที่ดูเก๋แปลกตา

02. เปลี่ยนห้องน้ำที่เคยรกให้เข้าที่เข้าทาง ด้วยการดีไซน์สเตนเลสเป็นกรอบกระจกเงา พร้อมชั้นวางของ, ที่ใส่กล่องกระดาษชำระ, ที่วางผ้าเช็ดตัว อีกทั้งหาถาดไว้วางของจิปาถะ ก็หยิบใช้ได้สะดวก

03. หากห้องมีพื้นที่กว้างพอ ทำห้องเก็บเสื้อผ้าและแต่งตัวแบบ Walk in closet ให้เป็นสัดส่วน แล้วทำประตูเข้ามุมแบบโปร่งแสงด้วยแผ่นโพลีคาร์บอเนต ที่ช่วยพรางตาแถมมีน้ำหนักเบาเปิดปิดง่ายอีกด้วย

04. ดัดแปลงบานหน้าต่างไม้เก่ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการนำมาติดผนังห้องครัว แล้วทำชั้นไม้เพิ่มไว้เก็บสารพัดเครื่องปรุง แค่นี้ก็ได้ชั้นเก็บของราคาประหยัดแล้ว

05. เก็บรองเท้าให้หยิบง่ายใช้สะดวก เพียงทำตู้เก็บรองเท้าซ่อนในผนังบริเวณประตูทางเข้า ก็ไม่เกะกะขวางทาง แล้วออกแบบหน้าบานไม้ตีเว้นช่อง 0.5-1 ซ.ม. พร้อมกรุมุ้งลวดด้านใน ก็ลดกล่นอับและกันแมลงเข้าไปได้

06. เก็บเครื่องครัวให้มิดชิด ด้วยการทำตู้บิวท์อินไม้เซาะร่องแบบทึบให้กลืนไปกับผนังก็ดูเรียบร้อย ส่วนอุปกรณ์ที่ต้องหยิบใช้บ่อย ก็ทำราวแขวนผนังเพื่อความสะดวก แถมกลายเป็นของตกแต่งผนังไปในตัว

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความแขวนชิลชิล กับทิลแลนเซีย [www.cmc.co.th]


บทความจาก www.cmc.co.th

เมื่อสัปดาห์ก่อนมีโอกาสได้ออกไปเดินหาต้นไม้แปลกๆ ที่จตุจักร แล้วก็เหมือนทุกๆ ครั้งที่ต้องเผลอใจให้กับต้นไม้มากมายรวมทั้งไม้แขวนรากอากาศ หน้าตาประหลาด เหมือนสับปะรดสีลอยได้ ที่แม่ค้าเขียนชื่อใส่มาในถุงว่า "ทิลแลนเซีย"

เมื่อ เราได้เจ้าหญิงน้อยทิลแลนเซียมาแล้ว คราวนี้ถึงเวลามานั่งคิดว่าจะปลูกยังไงดี ให้สวยและเข้ากันได้กับเพื่อนๆ ในสวน และแล้วก็เหลือบไปเห็นท่อนไม้ไผ่ที่วางอยู่ใกล้ๆ จากนั้นก็นึกไปถึงโซ่เส้นเล็กที่อยู่ในลิ้นชัก ตามมาช่วยกันประดิษฐ์ที่อยู่ของเจ้าหญิงน้อย "ทิลแลเซีย" กันเลยค่ะ

อุปกรณ์
-------------------------------

1. โซ่เส้นน้อย ยาว 1 เมตร + ข้อต่อแบบ Quick Link

2. ไม้ไผ่ หรือไม้รวก ตัด 1 ข้อ

3. ตะปูเกลียว 1"

4. สว่านไฟฟ้า

5. ลวด

6. ทิลแลนเซียสีสัน, สายพันธุ์ ตามชอบ

วิธีการ
-------------------------------

Step 1
นำไม้ไผ่ที่ตัดไว้มาเจาะรูตรงส่วนข้อ ขนาดรูใหญ่พอที่จะร้อยโซ่ผ่านได้

Step 2
นำโซ่ที่เตรียมไว้ร้อยผ่านเข้าไปในรูไม้ไผ่ เผื่อระยะสำหรับส่วนที่แขวนและส่วนที่จะห้อยทิลแลยเซียให้พอดี

Step 3
ล็อคโซ่ติดกับไม้ไผ่ด้วยการยิงตะปูเกลียวจากด้านนอก

Step 4
จัดทิลแลนเซียที่เตรียมไว้ให้เป็นกลุ่มก้อนทรงกลม โดยการผูกยึดด้วยลวด

Step 5
ทำกลุ่มทิลแลนเซียที่ได้มาผูกติดกับปลายโซ่ (สามารถผูกต่อกันได้หลายชั้นตามความพยายาม)

Step 6
นำข้อต่อ Quick Link มาติดตั้งที่ปลายโซ่ส่วนที่แขวน แล้วนำผลงานที่ได้ไปแขวนสร้างเส้นสายในสวนกันได้เลย

มารู้จักตัวจริงของ "ทิลแลนเซีย" กันหน่อย

ทิล แลนเซีย (Tillandsia) ต้นไม้เลี้ยงง่าย ที่มีรูปร่างแปลกประหลาด ใบคล้ายสับปะรดสี โตช้า ขนาดต้นประมาณ 5-10 เซนติเมตร เติบโตโดยใช้รากอากาศ ชอบแสงแดดรำไร เหมาะกับการปลูกด้วยวิธีแขวนหรือเกาะกับต้นไม้ใหญ่มีหลายสีสัน หลากสายพันธุ์ให้เลือกสะสม ขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ ให้น้ำโดยการฉีดเสปรย์ให้ชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ และให้ปุ๋ยตามสมควร สามารถหาซื้อได้จากตลาดนัดจตุจักร

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความ Light up your life by Light plus [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th
ลบความคิดเดิมๆที่ว่า แชนเดอร์เลีย หรือ โคมไฟระย้า ต้องประดับไว้แค่เพียงห้องโถงกลางบ้านเท่านั้นเพราะจริงๆแล้วโคมไฟระย้าที่ ดูหราเหล่านี้ สามารถปรับอารมณ์และเปลี่ยนบรรยากาศของห้องธรรมดาให้ไม่ธรรมดาได้ ไม่เชื่อก็ลองดู...

ห้องน้ำสุดคลาสสิค
สร้าง ความโดดเด่นด้วยเชนเดอร์เรียโครงเหล็กดัดประดับคริสตัล ในห้องน้ำสไตล์คลาสสิคที่ประกอบด้วยชุดอ่างล้างหน้าสไตล์หลุยส์ แล้วเพิ่มประโยชน์ใช้สอยด้วยชั้นวางของรูปทรงอ่อนช้อย และที่แขวนหมวกดีไซน์ทันสมัย ที่จะนำมาใช้แขวนเสื้อผ้าก็ได้ไม่มีใครว่า ดูเข้ากันอย่างไม่มีที่ติ ประหนึ่งเพลงบรรเลงของโมสารท ก็ว่าได้

1. แชนเดอร์เลียคริสตัล ราคา 39,000 บาท
(Lightplus โทร.0-2750-2795-8)

2. ที่แขวนหมวก ราคา  5,500 บาท
(D&O Shop โทร. 0-2656-1327)

3. กระจกส่องหน้า ราคา 15,000 บาท
(Lightplus โทร.0-2750-2795-8)

4. Wallpaper จาก ETCETERA ราคา ตร.ม. ละ 210 บาท
( Lightplus โทร.0-2750-2795-8)

5. ซิงค์อ่างล้างหน้า ราคา  บาท
(habitat โทร. 0-2658-0400)

6. พรมเช็ดเท้า ราคา 950 บาท
(habitat โทร. 0-2658-0400)

7. ชั้นวางของเหล็กดัด ราคา 23,000 บาท
(Lightplus โทร.0-2750-2795-8)

ห้องแต่งตัวแสนหวาน Princess Diary
ด้วย สีสันอ่อนหวานของผนังห้องที่ใช้วอลเปเปอร์สีฟ้าพาสเทล เข้าคู่กับพื้นไม้วีเนียร์สีอ่อนทำให้นึกถึงเจ้าหญิงแสนสวย ที่บรรจงแต่งกายในห้องที่มีแสงสว่างจากแชนเดอร์เรียอะคริลิกสีม่วงใสเหมือน อยู่ในความฝัน  ด้วยแสงไฟเพียงพอไม่ต้องอาศัยแสงจากเทียน จึงปรับเจ้าเชิงเทียนอันโต ให้เป็นที่แขวนเครื่องประดับหรือเสื้อผ้าชิ้นบางเบา ส่วนฐานวางเทียนก็สามารถใส่ของจุกจิกชิ้นเล็กๆได้ วางกระจกกรอบไม้ตั้งพื้นสำหรับแต่งตัว เพิ่มความอบอุ่นด้วยภาพวาดรูปธรรมชาติสีขาวดำ เก็บของให้เป็นระเบียบด้วยกล่องสีขาวต่างขนาด เพียงเท่านี้ความทรงจำในคืนก่อนได้เจอเจ้าชายก็ถูกบันทึกไว้ตั้งแต่ ส่องกระจกแล้วล่ะ

1. แชนเดอร์เลียร์อะคลิริกสีม่วงใส รุ่น PIRUS ราคา 25,000 บาท
(Lightplus โทร.0-2750-2795-8)

2. กระจกตั้งพื้นกรอบไม้พ่นสีขาว ราคา 1,800 บาท
(norm โทร. 0-81503-4172)

3. รูปภาพ สุนัขและต้นไม้ ติดผนัง ราคารูปละ 1,900 บาท
(Lightplus โทร.0-2750-2795-8)

4. Wallpaper จาก ETCETERA ราคา ตร.ม. ละ 320 บาท
 ( Lightplus โทร.0-2750-2795-8)

5. เชิงเทียนสีขาว ราคา 9,000 บาท
(room items โทร. 0-81807-5005 ,0-89171-8075)

6. กล่องใส่ของหุ้มหนังต่างขนาด 3 ชิ้น ราคาชุดละ 3,450 บาท
(D&O Shop โทร. 0-2656-1327)

7. โต๊ะเล็กสีขาว
 (สอบถามราคาได้ที่ Index Living mall ทุกสาขา)

8. พรมเช็ดเท้าสีม่วง ราคา 950 บาท
(habitat โทร. 0-2658-0400)

9. ถังสี่เหลี่ยมหุ้มหนังทรงสูง  ราคา 3,500 บาท
(room items โทร. 0-81807-5005 ,0-89171-8075)

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความแฟชั่นสไตล์ Modern [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th

แต่งบ้านก็เหมือนแต่งตัว ยิ่งมีเสื้อผ้ามากมายให้เลือก สไตล์การแต่งตัวก็หมุนเปลี่ยนไปได้เรื่อย เกิดเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ ขึ้นไม่หยุดหย่อน เช่นกัน บ้านเองก็มีแฟชั่น ความสนุกกับการเปลี่ยนแปลงหยิบจับผสมสิ่งนี้สิ่งนั้นเข้ามารวมกัน แทนการปิดกั้นอยู่เพียงสิ่งที่เหมือนและเข้าคู่กัน บางครั้งความต่างกลับทำให้น่าสนใจ เกิดเป็นจุดเด่นที่น่าหลงใหล แฟชั่นจึงเกิดขึ้นได้กับการแต่งบ้านไม่แพ้การแต่งตัว

เมื่อเทรนด์ของ เฟอร์นิเจอร์การตกแต่งขยายตัวกว้างขึ้น คนชอบแต่งบ้านเองเลือกของเองก็เยอะขึ้น ดังนั้น ร้านเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลายจึงใส่ความเป็นแฟชั่นเข้าไปอย่างอินเทรนด์ ให้เลือกสรรเฟอร์นิเจอร์สักชิ้นนั้นกลายเป็นเรื่องง่าย และไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงสไตล์ใดสไตล์หนึ่ง หรือสีเพียงไม่กี่สี แต่กลับมีการใส่ความหลากหลายทั้งสไตล์และสีสัน ที่บางครั้งให้ความรู้สึกโดดเด่นกว่าความเข้ากันที่คุ้นชิน อาจไม่จำกัดเลยว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะถูกต้องตามสไตล์ไหม ขอแค่สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้แต่งออกมาได้ชัดเจนพอ

ร้าน เฟอร์นิเจอร์อีกแห่งอย่าง "Chic Republic" เป็นอีกหนึ่งแหล่งรวมเฟอร์นิเจอร์หลายๆ สไตล์ไว้ให้ได้เลือกผสมการตกแต่งออกมาเป็นสไตล์เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร ปรับแนวคิดจากโชว์รูมมาเป็นโฮมแฟชั่นหลังใหม่ที่รวมเอาเฟอร์นิเจอร์เทรนด์ ใหม่ที่เรียกว่า "Modtrad" อันเป็นการรวมกันของสไตล์ Modern และ Traditional ที่กำลังได้รับความนิยมของคนรุ่นใหม่ที่ชอบความต่างแต่มีสไตล์เฉพาะตัว ยิ่งได้ลงมือเลือกทำเองด้วยแล้ว นอกจากสนุกยังจะทำให้ยิ่งรักบ้านมากกว่าเดิมอย่างไม่รู้ตัวอีกด้วย

ที่มา: Home.cot.h

คอนโด บทความ Open the Door [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th
อย่าปล่อยให้พื้นที่ว่างรอบๆ บ้านรกร้างเปล่าประโยชน์ ลองมาปรับเป็นสวนตามทางเดิน มุมเล็กๆ เอาไว้นั่งจิบกาแฟยามเช้า ท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้า หรือจะนั่งเล่นคิดอะไรเพลินๆ ก็แสนสบายใจ ใครจะไปรู้...เราอาจค้นพบแรงบันดาลใจใหม่ๆ บนื้นที่เล็กๆ จากบ้านของตัวเอง

1. ส่วนระเบียงบ้าน เพิ่มความใกล้ชิดธรรมชาติด้วยการสร้างเก้าอี้ให้ยื่นออกมาเสมือนเป็นคนละ ส่วนกับพื้นระเบียง ทำให้เวลานั่งเล่นจะสัมผัสถึงกิ่งก้านของต้นไม้ ใบไม้ ปลิวลมมาแตะตัว รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติได้มากยิ่งขึ้น

2. ปูแผ่นพื้นสำเร็จบริเวณกลางสวนใช้เป็นลานเล็กๆ สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ก็ไม่เลว บ้านไหนมีต้นไม้ใหญ่ๆ หน่อยก็ดีไป แต่หากมีไม่มาก แนะนำให้หาร่มผ้าใบมาปักไว้อีกคัน ช่วยกันแดดกันฝนได้ดีไม่แพ้กัน ทั้งยังช่วยถนอมเก้าอี้ไม้ให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นไปอีก

3. บ้านใครอยู่ติดคลองหรือมีสระน้ำเล็กๆ ลองทำหามุมนั่งเล่นกลางแจ้งแบบง่ายๆ ไว้ใกล้ๆ ก็ไม่เลวนะ เพียงใช้แผ่นไม้เก่ามาทำเป็นป๊อปโต๊ะ พร้อมทั้งใช้หมอนรถไฟมาเป็นม้านั่งแบบง่ายๆ ได้แล้ว

4. สร้างจุดเด่นของบันไดหน้าบ้าน ด้วยการใช้แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปมาวางและจัดเซตขึ้นมาแบบง่ายๆ โรยหินกรวดขนาดกลาง ทำให้ดูเหมือนงานศิลปะกลางแจ้งที่ใช้งานได้จริง จากนั้นจึงทำมุมนั่งเล่นจากก้อนคิวบิควางบนแผ่นคอนกรีตหล่อเป็นชิ้นๆ วางสลับแล่นระดับไปมา

5. เพิ่มประโยชน์ใช้สอยให้บริเวณทางเข้าบ้านด้วยม้านั่งไม้ จะเป็นไม้สนอบแห้งหรือไม้เต็งที่ทนแดดลมฝนก็ได้ เพราะเมื่อตัดกับพื้นไม้สีเข้มก็ดูเด่นสะดุดตาขึ้น เพิ่มลูกเล่นด้วยการซ่อนไฟอัพไลท์สาดขึ้นมาจาดพื้น เหมาะมากสำหรับใช้นั่งเล่นกินกาแฟยามเช้าหรือนั่งใส่รองเท้าก่อนออกจากบ้าน

6. เล่นระดับพื้นสวนให้มีความสูงต่าไม่เท่ากัน ด้วยการใช้ไม้หมอนรถไฟวางเป็นขั้นบันไดนำสายตาไปสู่เก้าอี้ไม้กลางแจ้งด้าน บท ส่วนผนังไม้ด้านหลังนั้น ใช้ซี่ไม้สานขัดกันไปมากลายเป็นมุมนั่งเล่นนอกบ้านสวยเก๋ไม่ซ้ำใคร

7. สร้างพื้นที่นั่งเล่นง่ายๆ ด้วยการใช้คอนกรีตหล่อเป็นฐานที่นั่ง 2 มุม ใช้แผ่นไม้ติดตั้งระหว่างคอนกรีตทั้งสองชิ้น สามารถใช้เป็นกระถางปลูกต้นไม้ไปในตัว แล้วโรยพื้นด้านล่างด้วยเศษไม้ฝอยๆ ทนการปูหญ้า ส่วนกำแพงด้านหลังใช้แผ่นเมทัลชีทเสียบปักฉากกับพื้นที่แบบง่ายๆ แถมประหยัดเงินขึ้นเยอะ

8. วางตอไม้เล็กๆ เป็นวงกลม เว้นพื้นที่ตรงกลางไว้ก่อกองไฟ เหมือนกิจกรรมออกแคมป์ไฟ เอาไว้นั่งต้มกาแฟแหงนหน้าดูดาวในยามค่ำคืน หรือคุยกันระหว่างเพื่อนฝูงและคนในครอบครัว ก็ดูอบอุ่นไม่น้อย

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความ Take a breath in green



บทความจาก www.cmc.co.th
อย่าปล่อยให้พื้นที่ว่างรอบๆ บ้านรกร้างเปล่าประโยชน์ ลองมาปรับเป็นสวนตามทางเดิน มุมเล็กๆ เอาไว้นั่งจิบกาแฟยามเช้า ท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้า หรือจะนั่งเล่นคิดอะไรเพลินๆ ก็แสนสบายใจ ใครจะไปรู้...เราอาจค้นพบแรงบันดาลใจใหม่ๆ บนื้นที่เล็กๆ จากบ้านของตัวเอง

1. ส่วนระเบียงบ้าน เพิ่มความใกล้ชิดธรรมชาติด้วยการสร้างเก้าอี้ให้ยื่นออกมาเสมือนเป็นคนละ ส่วนกับพื้นระเบียง ทำให้เวลานั่งเล่นจะสัมผัสถึงกิ่งก้านของต้นไม้ ใบไม้ ปลิวลมมาแตะตัว รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติได้มากยิ่งขึ้น

2. ปูแผ่นพื้นสำเร็จบริเวณกลางสวนใช้เป็นลานเล็กๆ สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ก็ไม่เลว บ้านไหนมีต้นไม้ใหญ่ๆ หน่อยก็ดีไป แต่หากมีไม่มาก แนะนำให้หาร่มผ้าใบมาปักไว้อีกคัน ช่วยกันแดดกันฝนได้ดีไม่แพ้กัน ทั้งยังช่วยถนอมเก้าอี้ไม้ให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นไปอีก

3. บ้านใครอยู่ติดคลองหรือมีสระน้ำเล็กๆ ลองทำหามุมนั่งเล่นกลางแจ้งแบบง่ายๆ ไว้ใกล้ๆ ก็ไม่เลวนะ เพียงใช้แผ่นไม้เก่ามาทำเป็นป๊อปโต๊ะ พร้อมทั้งใช้หมอนรถไฟมาเป็นม้านั่งแบบง่ายๆ ได้แล้ว

4. สร้างจุดเด่นของบันไดหน้าบ้าน ด้วยการใช้แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปมาวางและจัดเซตขึ้นมาแบบง่ายๆ โรยหินกรวดขนาดกลาง ทำให้ดูเหมือนงานศิลปะกลางแจ้งที่ใช้งานได้จริง จากนั้นจึงทำมุมนั่งเล่นจากก้อนคิวบิควางบนแผ่นคอนกรีตหล่อเป็นชิ้นๆ วางสลับแล่นระดับไปมา

5. เพิ่มประโยชน์ใช้สอยให้บริเวณทางเข้าบ้านด้วยม้านั่งไม้ จะเป็นไม้สนอบแห้งหรือไม้เต็งที่ทนแดดลมฝนก็ได้ เพราะเมื่อตัดกับพื้นไม้สีเข้มก็ดูเด่นสะดุดตาขึ้น เพิ่มลูกเล่นด้วยการซ่อนไฟอัพไลท์สาดขึ้นมาจาดพื้น เหมาะมากสำหรับใช้นั่งเล่นกินกาแฟยามเช้าหรือนั่งใส่รองเท้าก่อนออกจากบ้าน

6. เล่นระดับพื้นสวนให้มีความสูงต่าไม่เท่ากัน ด้วยการใช้ไม้หมอนรถไฟวางเป็นขั้นบันไดนำสายตาไปสู่เก้าอี้ไม้กลางแจ้งด้าน บท ส่วนผนังไม้ด้านหลังนั้น ใช้ซี่ไม้สานขัดกันไปมากลายเป็นมุมนั่งเล่นนอกบ้านสวยเก๋ไม่ซ้ำใคร

7. สร้างพื้นที่นั่งเล่นง่ายๆ ด้วยการใช้คอนกรีตหล่อเป็นฐานที่นั่ง 2 มุม ใช้แผ่นไม้ติดตั้งระหว่างคอนกรีตทั้งสองชิ้น สามารถใช้เป็นกระถางปลูกต้นไม้ไปในตัว แล้วโรยพื้นด้านล่างด้วยเศษไม้ฝอยๆ ทนการปูหญ้า ส่วนกำแพงด้านหลังใช้แผ่นเมทัลชีทเสียบปักฉากกับพื้นที่แบบง่ายๆ แถมประหยัดเงินขึ้นเยอะ

8. วางตอไม้เล็กๆ เป็นวงกลม เว้นพื้นที่ตรงกลางไว้ก่อกองไฟ เหมือนกิจกรรมออกแคมป์ไฟ เอาไว้นั่งต้มกาแฟแหงนหน้าดูดาวในยามค่ำคืน หรือคุยกันระหว่างเพื่อนฝูงและคนในครอบครัว ก็ดูอบอุ่นไม่น้อย

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความรั้วสวย ไอเดียดี [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th

เราอาจเห็นรั้วบ้านของคนอื่นใน Magazine ต่างๆ ได้เห็นไอเดียการแต่งรั้วก็หลายแบบ ซึ่งเกิดจากการใช้งาน ความชื่นชอบและลักษณะของบ้านที่แตกต่างกัน วันนี้จึงเก็บภาพมาฝากกัน ใครถูกใจไอเดียไหนลองนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับบ้านคุณดูสิ

a. แม้จำเป็นต้องทำรั้วทึบแต่ก็ไม่ดูอึดอัด ด้วยการตกแต่งรั้วภายในบ้านให้ดูเหมือนเป็นผนังภายนอกบ้าน โดยติดบานกรอบหน้าต่างไม้เก่าพร้อมทั้งจัดสวน วางม้านั่งและตู้ไปรษณีย์ ทำให้พื้นที่ระหว่างรั้วและตัวบ้านจริงดูเหมือนทางเดินภายนอกบ้าน ที่ชวนออกไปนั่งเล่นและดูน่ามองขึ้นเยอะ

สถานที่ ร้านอวตาร์ เชียงใหม่

b. เปิดมุมมองให้มองผ่านรั้วทึบได้ ด้วยการทำเป็นช่องเปิดแล้วติดหน้าต่างบ้านเฟี้ยมไม้ทึบ ให้เปิดเห็นวิวทะเลสวยๆ หน้าบ้านและรับลมได้เต็มที่ ตกแต่งผนังเป็นปูนฉาบไม่เรียบทาสีสดที่ให้ผิวสัมผัสสวยงามและเข้ากับ บรรยากาศริทะเลด้วย

สถานที่ บ้านคุณแกรี่ บอยด์ คูเปอร์-คุณอ่อนอุษา สำเลียงพล คูเปอร์

c.เปลี่ยน รั้วทึบภายในบ้านให้น่าทึ่งน่ามอง ด้วยการกรุไม้ระแนงทาสีขาวสลับกับผนังทาสีสด แล้วต่อโครงเหล็กตีระแนงไม้ไผ่ให้สูงจากพื้นอย่างน้อย 2.5 เมตร อาจปลูกไม้เลื้อยไม้แขวนให้ดูสดชื่นแล้วจัดเป็นมุมนั่งเล่น ก็ทำให้ดูร่มรื่นขึ้นไม่น้อย แถมเป็นโครงสร้างที่น้ำหนักเบา ไม่ทำให้รั้วเดิมเสียหายด้วย

สถานที่ บ้านคุณสุวิทย์ เอื้อศักดิ์ชัย

d. อิฐบล็อกที่ดูเป็นของธรรมดาก็ใช้ทำรั้วแบบเก๋ๆได้ ด้วยการใช้อิฐบล็อกที่ใช้ทำช่องลมซึ่งปกตินิยมวางตามแนวนอน นำมาจัดวางแนวตั้งสลับช่องเว้นช่อง ทำให้เกิดช่องว่างที่ดูมีมิติแปลกตา ช่วยบังสายตาและถ่ายเทอากาศได้ดีไปพร้อมๆ กัน

สถานที่ บ้านคุณศุภสิทธิ์ วิเศษศักดิ์ดี

e. แต่งรั้วเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น ด้วยการก่อผนังรั้วหนา 20 เซนติเมตร เซาะร่องเป็นเส้นแนวนอนทุกระยะ 30-40 เซนติเมตร ที่ทั้งดูสวยและช่วยป้องกันผนังปูนร้าวเนื่องจากการขยายตัวแล้วทำช่องแนวนอน สำหรับซ่อนไฟปิดด้วยขอบไม้ ก็ดูเรียบเท่เข้ากับบ้านได้เป็นอย่างดี

สถานที่ บ้านคุณวีรฉัตร พรหมศร

f. เปลี่ยนประตูบ้านมาเป็นประตูรั้ว ด้วยการใช้ประตูไม้เก่านำมาประกอบต่อกัน และเสริมด้วยโครงเหล็กให้แข็งแรง โดยยังคงลักษณะของลูกฟักไม้และลูกกรงเหล็กของประตูหน้าต่างบ้านสมัยก่อน และทำซุ้มประตูโชว์โครงสร้างไม้ที่ดูแข็งแรง แต่ยังคงกลิ่นอายของความเป็นไทยได้อย่างมีเสน่ห์

สถานที่ บ้านคุณชัชวาล - คุณอุไรวรรณ เกษรมาลา

ที่มา: Rommag

คอนโด บทความไอเดียใหม่ช่วยเปลี่ยนประตูบ้านไปจากเดิม [www.cmc.co.th]




บทความจาก www.cmc.co.th

เปลี่ยนภาพประตูบ้านที่เราคุ้นเคย จากประตูไม้บานทึบขนาดมาตรฐานมาเป็นประตูหน้าตาหลากหลายแบบ เพื่อให้เข้ากับสไตล์และความชื่นชอบของเจ้าของบ้าน ประตูแบบไหนเหมาะกับบ้านคุณ ลองไปดูไอเดียที่เรานำมาฝากกัน

1. บานไม้กึ่งทึบกึ่งโปร่ง
ตี ไม้ระแนงขนาด 1x1 นิ้ว เว้นระยะประมาณ 1 นิ้ว ให้เป็ตารางในกรอบบานประตู เพื่อให้หน้าบานไม่ทึบ อากาศถ่ายเทดี สามารถมองลอดออกไปอีกด้านหนึ่งได้ เหมาะสำหรับใช้แบงสัดส่วนแบบชั่วคราวในกรณีที่ไม่ต้องการให้ความเย็นจาก เครื่องปรับอากาศไหลออกไป แนะนำให้กรุกระจกแบบใสหรือขุ่นทับหน้าบานอีกชั้นหนึ่ง

2. ประตูขยายขนาดได้
ด้วย ไอเดียนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องเหนื่อยเวลาต้องการเปิดประตูบานใหญ่ที่มีหน้า บานกว้างๆ อีกต่อไปแล้ว เพียงทำบานประตูกว้าง 80 เซนติเมตร คู่กับบานเสริมกว้าง 30 เซนติเมตร เมื่อเปิดรวมกันจะมีพื้นที่กว้าง 1 เมตร ใช้เปิดในกรณีที่ต้องการขนของชิ้นใหญ่ผ่านเข้า-ออกบ้าน เพียงเปิดประตูทั้งคู่ออกพร้อมกัน คุณก็จะมีพื้นที่สำหรับใช้ขนของที่กว้างและสะดวกมากขึ้น

3. ประตูเลื่อนสองทาง
ไอ เดียนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย โดยไม่ต้องทำประตูหลายๆ บานให้เปลืองงบ เพียงทำบานเลื่อนแบบสไลซ์ให้สามารถเปิด-ปิด ใช้งานในพื้นที่ห้องแต่งตัวและห้องน้ำได้ในบานเดียวอย่างคุ้มค่า แนะนำให้ใช้ไอเดียนี้กับห้องที่อยู่ติดกันและเหมาะกับห้องของคนโสด

4. ประตูแบบตู้เย็น
ดัด แปลงประตูบ้านให้สามารถเปิดเฉพาะด้านบน เพื่อรับลมเย็นๆ ช่วยให้อากาศถ่ายเท และมองเห็นแขกผู้มาเยือนได้ โดยแบ่งบานประตูออกเป็น 2 ส่วน บานด้านบนยาว 60 เซนติเมตร ส่วนด้านล่างยาว 140 เซนติเมตร ติดบานพับแยกส่วนกัน ทำกลอนล็อกระหว่างบานประตูด้านบนและด้านล่างเข้าด้วยกัน เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกเมื่อต้องการเปิดใช้ประตูแบบเต็มบาน

5. ประตูมีช่อง
บาน ประตูเรียบๆ อาจดูน่าเบื่อ ลองสร้างลวดลายแปลกตาลงบนบานประตูด้วยการเจาะช่องวงกลมหลายๆ บานที่หน้าบาน ตกแต่งด้วยกระจกเงาตัดให้พอดีกับช่องวงกลมแต่ละวง แล้วทำแป้นหมุนแผ่นกระจกขึ้นลงได้ กระจกเงาจะช่วยสะท้อนภาพและสีสันสวยๆ ให้ปรากฏบนหน้าบานประตูดูเก๋และแปลกตาไปอีกแบบ ไอเดียนี้เหมาะกับบานไม้จริงทั้งแผ่น ไม่เหมาะกับบานประตูกรุไม้อัด

6. ประตูกรุช่องแสง
จาก ประตูไม้ฝาปะกนแบบไทยๆเรียบๆธรรมดา เราสามารถเพิ่มช่องแสงขนาด 15 ? 20 เซนติเมตร ที่หน้าบานไม้แล้วกรุกระจกสีลงไป ช่วยให้ห้องดูเด่นด้วยแสงสีให้ความรู้สึกแบบบ้านย้อนยุคที่ทันสมัย เพิ่มรายละเอียดแบบไทยด้วยมือจับห่วงทองเหลือง

7. บานตู้สแตนเลส
ประ ตูสแตนเลสแบบนี้เหมาะกับห้องครัวเป็นอย่างยิ่ง นอกจากเข้ากับเครื่องใช้ในครัวแล้วยังมีความทนทานเช็ดทำความสะอาดง่าย เพื่อความปลอดภัยจึงควรลบขอบมุมให้ดี แต่ถ้ากลัวราคาสั่งทำจะสูงเกินไป เราสามารถกรุแผ่นฟอร์เมกาลายสแตนเลสลงบนประตูไม้อัดแทนได้ ขอดีของการใช้แผ่นฟอร์เมกาคือมีราคาถูก ทั้งยังมีพื้นผิวโลหะต่างๆ และลวดลายให้เลือกมากมาย เช่น พื้นผิวที่มีรูเล็กๆ หรือลายปัดขนแมว ฯลฯ ซึ่งคุณสามารถเลือกใช้ได้ตามใจชอบ

8. บานใสๆ
ไอ เดียนี้เหมาะกับบ้านที่ต้องการความโปร่งโล่ง แต่ก็ยังต้องการแบ่งสัดส่วนเพื่อกั้นเสียงและความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ไม่ให้กระจายออกไป เราจึงขอแนะนำให้กั้นพื้นที่ด้วยประตูบานเฟี้ยมกระจกใสนิรภัยหนา 10 มิลลิเมตร เพื่อกั้นเสียงและรองรับแรงกดทับของหน้าบาน ยึดบานกระจกแต่ละบานด้วยเฟรมทั้งด้านล่างและบน แผ่นกระจกเปลือยเปล่านี้ช่วยให้บ้านโปร่งสบายตาและมีประโยชน์ไม่น้อยเลยที เดียว

9. ประตูจีนแบบประยุกต์
เปลี่ยนกระดาษสา ที่เคยกรุหลังประตูไม้จีนฉลุลายโปร่งๆแบบโบราณ มาเป็นการติดแผ่นกระจกฝ้าหนา 3 มิลลิเมตรแทน ทั้งนี้ก็เพื่อกันฝนและบังสายตาจากภายนอก เสร็จแล้วตีคิ้วไม้ทับให้แข็งแรง แต่ถ้าต้องการให้เหมือนประตูติดกระดาษสาหรือผ้าโบราณจริงๆก็ทำได้เช่นกัน เพียงแค่ติดฟิล์มกระจกลายสวยๆทับลงไปเท่านี้ก็ได้ประตูในแบบที่ต้องการแล้ว เนื่องจากประตูเป็นไม้แกะสลักจึงไม่ทนแดดและฝน ดังนั้นเราจึงควรติดตั้งบานประตูให้เปิดเข้าหาตัวบ้าน แล้วยกวงกบและหน้าบานให้สูงกว่าระดับพื้นภายนอกด้วย

10. ประตูแบบเข้ามุม
ซ่อน ประตูบานเลื่อนในผนังทั้งสองด้าน แล้วกรุกระจกฝ้าเพื่อทำเป็นหน้าบานประตู เมื่อเลื่อนมาชนกันจะเกิดพื้นที่ห้องมุมฉาก ใช้เป็นพื้นที่แต่งตัวชั่วคราว เหมาะอย่างยิ่งกับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด ส่วนกลอนล็อกอาจใช้กลอนสลักยึดกับพื้นก็ได้ดูสะดวกไปอีกแบบ

11. กรุบานกระจกด้วยสติ๊กเกอร์ลายกราฟิก
ติด สติ๊กเกอร์ลายกราฟิกแบบกึ่งทึบกึ่งโปร่งลายเก๋ๆบนหน้าบานกระจกใส เพื่อบดบังมุมมองจากภายนอกช่วยให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ขั้นตอนการติดสติ๊กเกอร์ทำไม่ยาก เริ่มจากวัดขนาดประตูให้เรียบร้อยแล้วสั่งพิมพ์สติ๊กเกอร์ตามขนาดที่ต้องการ การติดสติ๊กเกอร์มีเคล็ดลับง่ายๆ แค่ฉีดน้ำให้ทั่วบานกระจกแล้วติดสติ๊กเกอร์ลงไป เราสามารถเลื่อนหรือปรับตำแหน่งสติ๊กเกอร์ได้ตามความพอใจ เมื่อลงตัวแล้วจึงค่อยๆใช้ไมบรรทัดรีดน้ำและไล่ฟองอากาศออก ทิ้งให้แห้ง เท่านี้แผ่นสติ๊กเกอร์ก็เรียบสวยไม่มีฟองอากาศ

12. ผนังหลอก
กรุ แผ่นสังกะสีบนประตูบานเลื่อนให้ดูกลมกลืนกับผนังปูนซีเมนต์ขัดมัน เมื่อเปิดออกจะพบกับห้องด้านในที่มีลักษณะคล้ายห้องลับซ่อนอยู่หลังผนัง นอกจากนี้ยังสามารถติดแม่เหล็กเพื่อยึดกระดาษโน้ตไว้บนบานประตูสังกะสี เหมือนหน้าบานตู้เย็นได้ด้วยเช่นกัน

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความ More Furniture @ ROD [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th

ร้าน ROD นับว่าเป็นแหล่งรวมเฟอร์นิเจอร์และของสะสมหายากที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งใน ย่านนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อเข้าไปที่ร้านคุณจะได้พบกับสินค้ามากมายหลายชนิดที่คาดไม่ถึงตั้งแต่ ข้าวของเครื่องใช้ชิ้นเล็กๆ อย่างเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ ตู้ เตียง ไปจนถึงรถยนต์คันใหญ่เลยทีเดียว

นอกจากนั้นที่นี่ยังรับ ผลิตและซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย ทั้งหมดนี้รวบรวมอยู่ในโกดังของการรถไฟตรงข้ามตลาดอ.ต.ก. ยิ่งถ้ามาวันเสาร์และอาทิตย์ ที่นี่ยังมีตลาดนัดเฟอร์นิเจอร์ของสะสมให้เราเดินช็อปอย่างจุใจที่เริ่มกัน ตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ ไปจนถึงดึกดื่นกันเลยทีเดียว

Recommend:
Navigator: โกดังรถไฟ ตรงข้ามตลาด อ.ต.ก. เขตจตุจักร กทม.
Time: เปิด : ทุกวัน 10.00 น.-24.00 น.
Contact: 08-7978-0578

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความก๊อกน้ำมีสไตล์ [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th

หากใครกำลังตกแต่งห้องน้ำใหม่ แล้วกำลังมองหาก๊อกน้ำหน้าตาดีที่น่าดูน่าจับ เราขอแนะนำก๊อกน้ำ 2 สไตล์คือ สไตล์คลาสสิกและสไตล์โมเดิร์น พร้อมจับคู่กับกระเบื้องกรุผนังให้ยิ่งดูสวยจนน่าจับตา

Life is classic: เติมเสน่ห์ความโก้มีสไตล์แบบคลาสสิก

1. สร้างความโดดเด่นด้วยก๊อกซิงค์ผสมน้ำร้อนน้ำเย็น รุ่น "Baroco" ของ Paini ราคา 9,179 บาท รับประกันไม่รั่วซึมตลอดอายุการใช้งาน (บริษัท ชาญไพบูลย์ เทรดดิ้ง (1972) จำกัด โทร.02-285-5795 www.charnpaiboon.com)

2. ตกแต่งอ่างล้างหน้าให้สวยงามสไตล์ย้อนยุคด้วยก๊อกผสมน้ำร้อนน้ำเย็น รุ่น "HIMMAPAN SERIES CT2026C25ST" ของ COTTO ที่มีเส้นสายอ่อนช้อย และประดับมือจับด้วยคริสตัล (สอบถามราคาได้ที่ บุญถาวรทุกสาขา)

3. หรูเรียบมีระดับด้วยก๊อกผสมน้ำร้อนน้ำเย็น รุ่น "Porcelain Handle Series TLH22S2V7" ที่ทำก้านโยกด้วยกระเบื้องเคลือบสีขาว ราคา 60,500 บาท (TOTO โทร.02-655-2446 www.totobkk.com)

4. ประดับอัญมณีให้ห้องน้ำด้วยก๊อกผสมน้ำร้อนน้ำเย็น รุ่น "CLASSIC CRYSTAL SERIES CT205C17ST" ของ COTTO ที่ทำก้านโยกด้วยคริสตัลเป็นประกายเจิดจรัส (สอบถามราคาได้ที่ บุญถาวรทุกสาขา) เพิ่มความหวานด้วยกระเบื้องโมเสค 1 นิ้ว รุ่น "ฟิออริน่า โรซา" ขนาด 12x12 นิ้ว ของ COTTO ราคาตารางเมตรละ 31,900 บาท

หมายเหตุ กระเบื้องทั้งหมดซื้อได้ที่บุญถาวร สาขาปิ่นเกล้า โทร.02-441-3075 www.boonthavorn.com

ที่มา: Roommag

บทความ MORE STYLE, MORE SAFETY [www.cmc.co.th]


บทความจาก www.cmc.co.th

1. ลูกกรงโปร่ง
สำหรับบานที่มีผนังสูง แต่อยากให้บ้านดูโปร่งและอากาศถ่ายเทได้ดี ขอแนะนำให้ติดเหล็กกลมเส้นเล็กๆ ตรงพื้นที่บนสุดของผนัง ซึ่งสูงจากพื้น 2.20 เมตร โดยเว้นระยะซี่เหล็กให้ห่างกัน 15 เซนตเมตร แล้วทาสีดำให้เข้ากับสไตล์บ้าน ช่องโล่งยาว 1 เมตร ที่อยู่บนสุดของผนังนี้จะช่วยให้บ้านดูโปร่งสบายตา และช่วยเปิดมุมมองให้ห้องดูกว้างขึ้น

2. ตะแกรงเหล็กฉีก
ใช้แผ่นตะแกรงเหล็กฉีกแทนการติดตั้งเหล็กดัดทั่วไป เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ทนทาน ทั้งยังช่วยให้เกิดมุมมองโปร่งโล่งสบายตา

3. เหล็กตัดบางๆ
ลูกกรงเหล็กดัดแบบโปร่ง ลวดลายต่างๆ นี้ สามารถช่วยให้หน้าต่างดูดีไม่อึดอัด ทั้งยังสามารถป้องกันขโมยได้แบบไม่ขัดเขินด้วย

4. บานนิรภัย
ออก แบบบานประตูให้เป็นงานเหล็กดัด โดยนำเหล็กแผ่น หนา 3 มิลลิเมตร กว้าง 1 นิ้ว และ 3 เซนติเมตร มาเชื่อมติดกันให้เป็นลูกกรงประตูเหล็ก โดยเว้นเป็นตาราง ช่องละ 50 X 10 เซนติเมตร ช่วยให้บ้านดูโปร่งและแข็งแรงปลอดภัยมากขึ้น

5. กำแพงซ่อมลม
ใช้ บล็อกช่องลมมาก่อเป็นผนังในส่วนที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยจากการงัดแงะ วิธีนี้ทำไม่ยาก ทั้งยังมีราคาประหยัดกว่างานลูกกรงเหล็กดัดทั่วไปด้วย

6. บานนิรภัย
ออก แบบบานหน้าต่างหรือประตูกรอบอะลูมิเนียมให้มีลูกกรงในตัว ด้วยการทำกรอบแนวนอนห่างกันทุกๆ 30 เซนติเมตร ไอเดียนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความปลอดภัยจากการงัดแงะได้ในตัว

7. กำแพงหายใจได้
รั้ว บ้านส่วนใหญ่มักทึบตัน ลองหันมาใช้บล็อกช่องลมโปร่งๆ ซึ่งมีให้เลือกหลายรูปแบบและหลายลวดลายกันเถอะครับ เพื่อช่วยให้ลมเย็นๆ สามารถพัดผ่านเข้าสู่ตัวบ้านได้ง่ายขึ้น แต่ถ้ากังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว คุณสามารถปลูกแนวต้นไม้เพื่อบังสายตาอีกชั้นหนึ่งก็ได้

8. ช่องลมไม้ระแนง
ทำ ช่องลมเหนือหน้าต่าง ด้วยการนำแผ่นไม้ขนาดหน้ากว้าง 4 นิ้ว หนา ½ นิ้ว ยาว 80 เซนติเมตร มายึดกับโครงเหล็กของกรอบช่องรับลม ด้วยองศาของแผ่นไม้ที่เฉียงลงด้านล่างนี้จึงสามารถช่วยกรองแดดไม่ให้ส่อง เข้าสู่ตัวบ้านได้

9. กำแพงเหล็กดัด
บ้านที่ ต้องการให้มีพื้นที่ริมระเบียงเพื่อใช้เดินเล่นและพักผ่อน แนะนำให้ติดแผงตะแกรงเหล็ก โดยใช้เหล็กขนาดหน้ากว้าง 1 นิ้ว และหนา 3 มิลลิเมตร มาเชื่อมติดกันให้เป็นซี่ลูกกรงโปร่งๆ แล้วทำบานเปิด-ปิด ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน นอกจากนั้นคุณยังสามารถปีนตามแนวตะแกรงเหล็กแทนบันไดหนีไฟได้ด้วย

10. ระแนงไม้บานเลื่อน
หาก ชอบกำแพงห้องแบบโปร่งโล่ง แนะนำให้ทำประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่จากโครงสร้างเหล็ก แล้วตีระแนงไม้หน้ากว้าง 1 นิ้ว ในแนวนอน โดยเว้นช่องว่างทุกๆ 1 นิ้ว เพื่อป้องกันการถูกงัดแงะได้ในระดับหนึ่ง ทั้งยังดูปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทดี และเปิดมุมมองได้ด้วย

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความ Pebble in dry garden [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th

มาแต่งสวนหรือบ้านให้ดูสวยงาม ด้วยการเลือกโรยเม็ดกรวดที่ปัจจุบันมีหลากหลายชนิด ไม่ว่าภายในหรือภายนอก ใช้โรยเป็นคอร์ทกว้างแบบสวนญี่ปุ่น สระน้ำ กองทับเม็ดหินเหล่านี้แหล่ะจะทำให้บ้านดูสดใสขึ้น

01. กรวดแดงขัดมัน ก้อนขนาด 1.5-3.5 ซม. เม็ดกลมมนเพิ่มความเงาวาวให้หินดูน่ามองมากขึ้น นิยมใช้โรยตกแต่งภายในอาคาร ไม่ควรโดนแดแลมฝนมากนัก เพราะจะทำให้กรวดดูหมองลง

ราคาถุงละ 60 บาท (1กิโลกรัม)

02. กรวดเขียวหยก ก้อนขนาด 3-7 ซม. เป็นหินหยกสีเขียวปนขาว สีดูนุ่มนวล ใช้โรยในพื้นที่เน้นความสวยงามจริง หรือพื้นที่ไม่กว้างมาก ราคาและลักษณะของเม็ดหินที่เหมือนอัญมณี

ราคาถุงละ 40 บาท (1กิโลกรัม)

03. กรวดเขียวองุ่น ก้อนขนาด 2-4 ซม. เป็นกรวดนำเข้ามีสีสันสวยงามออกเหลืองมะนาว เหมาะที่จะนำไปตกแต่งในที่ร่ม หรือโรยเป็นจุดๆ เน้นความโดดเด่น

ราคาถุงละ 40 บาท (1กิโลกรัม)

04. กรวดเหลืองขัดมัน ก้อนขนาด 1.5-3.5 ซม. เม็ดกลมมน เนื้อละเอียดแน่นเรียบเนียน โค้งมน นิยมโรยตามขอบบ่อน้ำล้น หรือสระว่ายน้ำเพื่อปิดตะแกรงบ่อ

ราคาถุงละ 60 บาท (1กิโลกรัม)

05. หินทราย ก้อนขนาด 3-5 ซม. นำมากลึงจนมนกลมใช้โรยได้ทั้งในที่ร่มและที่กลางแจ้ง หินทรายมีความพรุนสูง หากโดนน้ำมากๆ ก็อาจจะเกิดตะไคร่ เชื้อรา เกาะหิน หากโรยในร่มจะช่วยยืดอายุความงามของหินไปอีกนาน

ราคาถุงละ 100 บาท (5กิโลกรัม)

06. หินลายเสือ ก้อนขนาด 3-5 ซม. ขัดมันมีสีเหลืองเป็รริ้วๆ สลับดำ บางก็มีสัส้มผสมแทรกอยู่ เกิดจากสินแร่ของแหล่งหิน

ราคาถุงละ 60 บาท (1กิโลกรัม)

room's tip
1. การปูกรวดบนพื้นดิน ควรมีการปูตาข่ายพลาสติกถี่ๆ รองก่อน เพื่อกันหญ้า วัชพืช แทรกโตขึ้นมา และป้องกันกรวดไม่ให้จมลงไปในดิน

2. ควรมีการล้างทำความสะอาดกรวดที่โรยอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งในกรวดที่สีสว่างเพราะจะเห็นฝุ่นมาเกาะอย่างชัดเจน โดยนำมาแช่น้ำไว้ประมาณ 30 นาที ให้ฝุ่นที่เกาะหลุดออกแล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้งก่อนนำไปโรยอีกครั้ง

*หินทั้งหมดหาซื้อได้ที่บริษัท เอเชีย สตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล โทร.02 940 8576-8

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความตลาดสวนรถไฟ ตลาดเก่าที่ไม่เก่า [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th

ตลาดเก่าที่เรากำลังจะแนะนำนี้ไม่ใช่ตลาดของชุมชนเก่าแก่ในอดีตเหมือน ที่ ตลาดน้ำอัมพวาหรือตลาดร้อยปี แต่เป็นตลาดที่เปิดขึ้นใหม่จากการรวมตัวของเหล่าคนรักของเก่าที่ตั้งเป็น ชมรมต่างๆ เก็บสะสมของเก่าชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงชิ้นใหญ่ๆ อย่างเฟอร์นิเจอร์ และรถยนตร์โบราณ พวกเขานัดรวมตัวกันทุกๆ วันเสาร์-อาทิตย์ บริเวณลานหน้าโกดังรถไฟในสุสานรถไฟตรงข้าตลาดอตก. จนเกิดเป็นชุมชนคนรักของเก่าเป็นที่รู้จักของผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ จนอดไม่ได้ที่จะแนะนำให้กับคนรักของเก่าเช่นคุณได้แวะเข้าไปเยี่ยมเยือนกัน

พื้นที่ ทั้งหมดแบ่งออกเป็นสัดส่วน เมื่อเข้ามาจะสังเกตเห็นโกดังเก่าที่เคยใช้เก็บของที่บรรทุกมากับรถไฟทอดยาว ตลอดแนว แม่ค้าร้านที่ตั้งอยู่บริเวณนี้จะตั้งขึ้นได้ไม่นานแต่ทุกร้านก็เป็นตัวจริง ในเรื่องของเก่าทั้งสิ้น เพราะเป็นร้านที่ย้ายมาจากซอยชุมชนขายของเก่าริมถนนกำแพงเพชร 2 ซึ่งเซียนของเก่าต่างรู้จักเป็นอย่างดี สำหรับร้านเด่นๆ ในโซนโกดังเก่าที่ไม่ควรพลาดจะมีร้านใดมาแนะนำบ้างตามมาเลยค่ะ

Rod's Antique
เป็น เจ้าแรกที่มาบุกตั้งร้านขึ้นที่นี่ คุณไพโรจน์ ร้อยแก้ว คือผู้ริเริ่มและบุกเบิกตลาดของเก่าในฝันแห่งนี้ให้เป็นจริงขึ้นมา สินค้าในร้านเน้นงานเก่าย้อนยุคจากหลายประเทศ ทั้งไทย จีน อินเดีย ยุโรป นอกจากนี้ที่ร้านยังมีช่างรับซ่อมและผลิตงานใหม่จากไม้เก่าในราคาไม่แพงด้วย หากเดินเลือกของจนเหนื่อยคุณสามารถนั่งพักดื่มเครื่องดื่มพร้อมรับประทาน อาหารภายในร้านได้จนค่ำ ที่นี่จึงเป็นเสมือนศูนย์รวมของคนรักของเก่าได้มีโอกาสพบปะสังสรรค์กันจริงๆ

เปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น.-24.00 น.
โทร. 08-7978-0578, www.rod santique.com

Moshi
ร้าน นี้รวบรวมเครื่องเสียง แผ่นเสียงเก่า ตู้เพลงโบราณและของประดับตกแต่งบ้านโบราณ อย่างนิฬิกาและรูปภาพโบราณเพื่อเอาใจคนที่หลงใหลเสน่ห์แบบย้อนยุค นอกจากนั้นยังมีบริการรับซ่อมแซมเครื่องเสียงเก่า ชิ้นไหนเก่าเอามาซ่อมด่วนได้ค่ะ

เปิด: ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น.-21.00 น.
โทร. 08-9489-8980

โอ่งลุงนิล
ที่นี่รวบรวมงานดินเผา โดยเฉพาะโอ่งดินเผาที่มีหลายรูปทรงและหลายขนาด มีทั้งใหม่และเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี

เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น.-18.00 น.

โทร. 08-1453-4975

ข้อแนะนำก่อนไปตลาด
*หาก สนใจขายสินค้าที่นี่ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ เพียงแต่ต้องเป็นสินค้าที่ทำขึ้นเองหรืองานย้อนยุคเท่านั้น ติดต่อสอบถามได้ที่คุณโรจน์ โทร. 08-7978-0578

*ไม่ต้องห่วงเรื่อง ที่จอดรถ หากคุณมีรถโบราณหรือรถคลาสสิกสวยๆ ที่นี่เปิดโอกาสให้นำรถมาจอดโชว์ที่ลานด้านหน้าได้เลย ส่วนรถทั่วไปที่นี่ได้จัดลานจอดรถไว้ให้ซึ่งอยู่ในพื้นที่ด้านหลังโกดังรถไฟ นั่นเอง

*เตรียมไฟฉายติดตัวไปด้วยเพื่อส่องไฟตรวจเช็คสภาพสินค้าก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ

ที่ตั้ง
สุสานรถไฟตรงข้ามตลาดอตก. ทางเข้าอยู่ตรงข้ามจุดขึ้นทางด่วนจตุจักร

ที่มา: roommag

คอนโด บทความ 9 ไอเดียเล็กๆ...เรื่อง (ใหญ่) ของห้องน้ำ [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th
“เครื่องชั่งน้ำหนัก เอาไว้ไหนดี”
เครื่องชั่ง น้ำหนัก นี่ละ ถ้าวางเกะๆกะๆในห้องน้ำจะดูเหมือนเป็นส่วนเกินของห้องไปเลย ที่ทางที่เหมาะๆควรจะเป็นพื้นที่เรียบและแห้ง เช่น บริเวณใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า หรือถ้าบ้านไหนไม่มีเคาน์เตอร์ ลองหาโต๊ะเตี้ยๆที่มีขนาดกว้างพอเหมาะไว้วางของกระจุกกระจิก ส่วนข้างใต้โต๊ะก็สอดเจ้าเครื่องนี้เก็บเข้าไป เท่านี้ห้องน้ำของคุณก็เคลียร์แล้ว

“ตะกร้าผ้า…เกะกะจริงๆ”
ตะกร้า ผ้าไม่จำเป็นต้องไปนอนนิ่งอยู่ในห้องน้ำ เลือกทำตู้บิลท์อินสำหรับเก็บผ้าเตรียมซักไว้หน้าห้องน้ำจะคุ้มกว่าต้องก้ม เก็บและเลื่อนตะกร้าไปมาทุกวัน ตู้ที่ว่านี้ออกแบบให้มีลิ้นชักกว้างเป็นพิเศษ สูงประมาณ 40 เซนติเมตร และลึก 50 – 60 เซนติเมตร อาจแยกเป็นชั้นตามจำนวนสมาชิกในบ้าน หรือแยกเป็นชั้นผ้าสีกับผ้าขาวก็ได้ ถ้าด้านบนยังเหลือพื้นที่ ก็ทำเป็นตู้สูงเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดเพิ่มได้อีกนะ ไอเดียนี้ทั้งดูสวยสบายตาและใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ

“แย่แล้ว…จะเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดไว้ไหนดีล่ะ”
ถึง อย่างไรห้องน้ำก็หนีไม่พ้นต้องพึ่งอุปกรณ์ทำความสะอาด ทั้งแปรงขัดพื้น แปรงขัดชักโครก น้ำยาล้างห้องน้ำ และไม้ถูพื้น ห้องน้ำสวยๆต้องมาหมดท่าก็เพราะอุปกรณ์ทุกอย่างมามะรุมมะตุ้มวางบ้างตาก บ้างอยู่ในนี้ ฉะนั้น ถ้าจะให้เวิร์คสุดๆ ควรออกแบบให้มีตู้หรือห้องเก็บอุปกรณ์พวกนี้ไว้บ้างในห้องน้ำตั้งแต่เริ่ม สร้าง แต่ถ้าห้องน้ำเล็กเสียจนไม่มีที่อีกแล้ว การติดชั้นวางตะแกรงโปร่งในส่วนเปียก หรือหาที่แขวนสวยๆ ประมาณตากไปโชว์ไป แห้งแล้วค่อยเก็บ ก็โอเคอยู่นะคะ

“ลืม...ติดปลั๊กมีฝาครอบในห้องน้ำ”
ถ้า คุณจำเป็นต้องใช้เครื่องเป่าผมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้องน้ำ อย่าลืมติดปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบและต้องเดินสายดินด้วยทุกครั้ง โดยติดตั้งให้สูงพ้นจากอ่างล้างหน้าขึ้นมาประมาณ 30 เซนติเมตร หรือติดบนผนังด้านข้างอ่างแทนก็ยิ่งดี อ้อ...เดี๋ยวนี้ปลั๊กไฟก็มีดีไซน์สวยๆเยอะเลย ลองเลือกรูปแบบที่ชอบและเข้ากับห้องดูค่ะ

“อากาศไม่ระบาย ติดพัดลมดูดเพิ่มดีไหม”
ห้อง น้ำที่ดีควรมีช่องแสงและหน้าต่างระบายอากาศอย่างเพียงพอ เพื่อให้ส่วนเปียกแห้งเร็วขึ้น ไม่ก่อปัญหาเรื่องกลิ่นอับและเชื้อรา แต่หากห้องน้ำที่บ้านอยู่ในมุมอับทึบ มีช่องแสงน้อย และไม่มีที่ระบายอากาศ ควรติดพัดลมดูดอากาศ 1 – 2 ตำแหน่ง คือเหนือส่วนชักโครก และเหนือส่วนอาบน้ำ ช่วยให้อากาศถ่ายเทดีขึ้น ส่วนจะเลือกแบบติดผนังหรือฝ้าเพดานก็แล้วแต่พื้นที่ ถ้าติดบนฝ้า ควรเผื่อพื้นที่เหนือเพดานไว้อย่างน้อยประมาณ 20 เซนติเมตร

“แย่แล้ว...ยาสีฟันหมดพอดี”
ของ ใช้ประจำวัน เช่น ยาสีฟัน ทิชชู่ สบู่ และแชมพู ควรมีเก็บตุนไว้บ้าง เผื่อกรณีหมดกะทันหัน โดยหาที่เก็บแห้งๆหยิบได้สะดวก เช่น พื้นที่ภายในตู้เคาน์เตอร์ หรือออกแบบชั้นวางเพิ่มเติม ด้วยการยึดแผ่นไม้หรือตะแกรงเหล็กเข้ากับผนัง แค่นี้ก็หมดปัญหา

“พลาด...แต่งหน้าในห้องน้ำภายใต้แสงสลัว”
ถ้า เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าคือส่วนแต่งตัวของสาวๆ ต้องระวังเรื่องแสงไฟให้ดี เพราะแสงที่สลัวๆจะดูหลอกตา แต่งหน้าทีไรเข้มเป็นงิ้วทุกที หลีกเลี่ยงการใช้หลอดไฟออกสีส้มๆประเภทวอร์มไวท์โดยเด็ดขาด แนะให้ใช้หลอดไฟแสงสีขาว เช่น คูลไวท์หรือเดย์ไลต์ ติดรอบๆกระจกเงา หรือจะซ่อนไฟให้แสงเรืองไม่แยงตา ก็ช่วยให้มองเห็นสีของเครื่องสำอางชัดเจน หรือถ้าเป็นไฟดาวน์ไลต์บนฝ้าเพดาน เลือกติดให้ตำแหน่งโคมไฟเบี่ยงไปทางด้านหลัง เพื่อลดแสงตรงๆที่ทำให้เกิดเงาบนใบหน้า

“ตากผ้าขนหนู...ยังไงก็ไม่แห้ง”
ผ้า ขนหนูเปียกหมาดๆ ตากในห้องน้ำที่ชื้นและอับ ยังไงก็ไม่แห้งแน่นอน การแก้ปัญหาต้องเริ่มตั้งแต่การทำห้องน้ำ โดยควรแบ่งโซนเปียก-แห้งให้ชัดเจน ส่วนที่ต่อเนื่องกับภายนอกก็ออกแบบเป็นระเบียงเอ๊าต์ดอร์สำหรับตากผ้า กั้นด้วยบานเลื่อนกระจกฝ้าหรือบานเกล็ดไม้ ก่อนเข้าสู่ส่วนอาบน้ำ ถ้าห้องน้ำมีพื้นที่น้อย หาราวแขวนสเตนเลสกว้างๆสัก 90 เซนติเมตร ยึดเข้ากับผนังส่วนแห้งแทน รับรองผ้าแห้งหายห่วง

“ใช้น้ำอุ่นหลายจุด เปลี่ยนเป็นเครื่องทำน้ำร้อนดีกว่า”
หน้า ตาของเครื่องทำน้ำร้อนก็คล้ายๆเครื่องทำน้ำอุ่นนั่นแหละ แต่ราคาจะแพงกว่าหน่อยและมีกำลังวัตต์มากกว่า เหมาะสำหรับบ้านที่ใช้งานน้ำอุ่นในหลายจุด โดยควรติดตั้งตัวเครื่องและเบรกเกอร์ในที่แห้ง เช่น ผนังด้านหลังชาวเวอร์ หรือซ่อนในตู้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ แล้วต่อเฉพาะท่อน้ำร้อนให้ใกล้กับก๊อกน้ำให้มากที่สุด (ควรเป็นก๊อกน้ำผสมที่ทนแรงดัน) ที่สำคัญอย่าลืมเดินสายดินต่อเข้ากับแท่งเหล็กทองแดงยาว 1.50 เมตร แล้วตอกลงดิน เพื่อป้องกันไฟรั่วระหว่างใช้งาน

ที่มา: baanlaesuan

คอนโด บทความ Make a list @ สวนจตุจักร [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th

ไม่แน่ใจว่าหลายคนเคยไปช็อปปิ้งของแต่งบ้านที่นี่กันบ้างหรือเปล่า เพราะในบริเวณพื้นที่เล็กๆ ตรงนี้ มีร้านที่เพื่อนๆ สามารถเลือกของไปแต่งบ้านได้อย่างสบายเลยคะ เดินไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้ากำแพงเพชร จะเห็นร้านรวงในบริเวณนี้ขายของแต่งบ้านกัน อย่างร้านแรก PeTit A peTit ร้านสวยชื่อฝรั่งเศสที่แปลว่า เก็บทีละเล็กละน้อย เป็นที่ร้านบอกได้เลยว่า มีของแต่งบ้านมากมายรวมทั้งเครื่องประดับกระจุกกระจิกเต็มไปหมด ร้านที่ 2 The Art room ร้านที่มีเอกลักษณ์อย่างชัดเจน โดยเน้นงานเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นเหล็กดัด จะตั้งโชว์สินค้าอยู่หน้าร้าน งานศิลปะจากยุโรป

ใครจะรู้ว่าผิวของเนื้อไม้สามารถ ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้สวยเก๋สะดุดตากับร้าน Graza Décor ร้านชื่อวิชาเรียนสมัยประถม ก.พ.อ. ร้านที่ออกแบบเฟอร์นิเจอร์สไตล์เรโทร สแกนดีเนเวียน เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหล 2 สไตล์นี้ และเดินมาไม่ไกลจะพบร้าน Soul Mate เฟอร์นิเจอร์สไตล์สแกนดีเนเวียน และเรโทร พร้อมทั้งของสะสมที่มีมาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณตาคุณยาย

5 ร้านเด็ด ที่เราเลือกมาให้ช็อปกันเบาๆ ในย่านรถไฟใต้ดินนี้ ใครชอบสไตล์ไหนร้านใด ก็ลองแวะเวียนกันไปดูนะคะ และอย่าลืมบอกว่าเป็นผู้อ่านจากเว็บไซต์รูมรับรองมีส่วนลดให้แน่นอน

ส่วนเดือนหน้าเราจะพาไปสัมผัสที่ๆ หนึ่งที่ทุกคนอาจจะลืมมันไปแล้ว ถ้าวันนี้ไปเที่ยวสักครั้งคุณจะคิดถึงอย่างแน่นอน...แล้วพบกันคะ

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความ Adjustable Furniture เฟอร์นิเจอร์พับ ซ้อน ยืด ขยาย [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th

หลายคนมักคิดว่าเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถยืด พับ หรือขยายได้เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่จำกัดเท่านั้น จริงๆแล้ว เฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า “เฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์” เพราะสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานให้ตรงกับความต้องการได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขยายขนาดเพื่อใช้ในยามมีปาร์ตี้ หรือหากต้องการใช้พื้นที่กว้างๆให้บ้านดูโล่งและเป็นระเบียบ ก็ซ้อนหรือพับเสีย ครั้งนี้เราคัดเลือกเฟอร์นิเจอร์แปลงรูปร่างได้ตามการใช้งานมาฝากกัน ดังนี้ค่ะ

แหล่งสรร
1. ฟังก์ โทรศัพท์ 08-4331-8456
2. room collection โทรศัพท์ 0-2422-9999 ต่อ 4800
3. Decor Mart ทองหล่อซอย 19 โทรศัพท์ 0-2365-0789-93
4. The Living Art ซอยอยู่ทองดี ถนนบางนา-ตราด โทรศัพท์ 0-2739-9570
5. Qconceptstore ชั้น 3 สยามพารากอน โทรศัพท์ 0-2610-9540
6. anyroom อาคาร C คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม โทรศัพท์ 0-2101-5860
7. Objekt อาคาร L4 ชั้น 2 คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม โทรศัพท์ 0-2102-2320
8. Modernform ถนนศรีนครินทร์ โทรศัพท์ 0-2722-8250

คอนโด บทความ 12 Awning for your home [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th

ป้องกันฝนและแดด กันสาดบ้านคุณพร้อมแค่ไหน เมื่อฤดูฝนมาถึง... กันสาดที่บ้านพร้อมแค่ไหนสำหรับการรับมือกับสายฝนและแสงแดด ลองมาหาไอเดียต่อเติมกันสาดให้เหมาะกับบ้านของคุณไปพร้อมกับเราสิ

1. กันสาดไร้เสา
หาก ใครต้องการติดตั้งกันสาดแบบโปร่งโล่งไร้เสา ลองนำไอเดียนี้ไปใช้ดูสิ โดยทำเป็นโครงสร้างเหล็ก มุงแผ่นพอลิคาร์บอนเนตซึ่งมีน้ำหนักเบาและช่วยกรองแสงได้ดีไว้ด้านบน จากนั้นยึดโครงสร้างด้านหนึ่งไว้กับผนังอาคาร ส่วนอีกด้านฝากไว้บนแกนเหล็กแขวนเอียง 45 องศา เท่านี้กันสาดไร้เสาก็แข็งแรงทนทานแล้ว

2. กันสาดหน้าต่าง
เหมาะ กับบ้านสไตล์โมเดิร์นที่นิยมติดตั้งหน้าต่างกระจกแบบบานเลื่อน ซึ่งมีโอกาสฝนสาดได้ง่าย และการติดตั้งกันสาดทีหลังทำได้ยากลำบาก เราจึงแนะนำให้ทำกันสาดด้วยการทำโครงสร้างเหล็กเป็นกรอบสี่เหลี่ยมยึดกับ ผนังแทน เท่านี้คุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความแข็งแรง แดดและฝนอีกต่อไปแล้ว

3.กันสาดด้านข้าง
ติด ตั้งตรงทิศที่ฝนสาด หรือแดดส่องเข้ามาเป็นประจำ เราสามารถติดผ้าใบที่ปลายกันสาดได้ โดยยึดผ้าใบไว้กับลวดสะลิง เพื่อกันไม่ให้ผ้าใบปลิวตามแรงลม ส่วนโครงสร้างของกันสาดทำจากโครงเหล็กกล่อง ขนาด 2 X4 นิ้ว วางทับด้วยหลังคาลอนเดียวชนิดใส และตีซี่ไม้ระแนง ขนาด 1X1 นิ้ว ปิดทับด้านใต้อีกทีหนึ่ง

4. กันสาด กึ่งทึบกึ่งโปร่ง
ถ้า อยากให้แสงสว่างส่องลงมาถึงภายในบ้าน แนะนำให้ทำกันสาดด้วยแผนหลังคาลอนเดียวชนิดใส วางทับบนโครงสร้างเหล็กกล่อง ขนาด 1X2 นิ้ว ที่ตีเป็นโครงสร้างตามต้องการ โดยออกแบบให้ยื่นจากแนวผนังเดิม 120 เซนติเมตร เพื่อกันฝนสาด
แฟ้มภาพนิตยสาร room

5. กันสาดอะลูมิเนียม
เหมาะ กับมุมระเบียงที่ต้องการความโปร่งโล่งหรือกึ่งทึบกึ่งโปร่ง จากเดิมที่เคยคุ้นตากับไม้ระแนง ลองเปลี่ยนวัสดุมาเป็นโครงเหล็กตัวเอช (H) ให้ดูทันสมัย แล้วติดอะลูมิเนียมอบสีขาว ขนาด 1 X 1 นิ้ว ตีห่างกัน 1 นิ้ว ไว้ด้านบน เสร็จแล้วปิดทับด้วยแผ่นพอลิคาร์บอนเนตใสเพื่อกันฝนและแดด

6. กันสาดม่านน้ำตก
ใคร ว่ามีกันสาดไว้เพื่อกันแดดและฝนอย่างเดียว ลองสร้างความพิเศษให้กันสาดด้วยการซ่อนท่อน้ำไว้ด้านบน แล้วปล่อยสายน้ำให้ตกลงมายังบ่อน้ำริมระเบียงด้านล่าง เกิดเป็นภาพม่านน้ำสวย ๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ควรเลือกใช้ซี่ระแนงสแตนเลสแทนวัสดุชนิดอื่นเพราะมีความทนทาน และทนน้ำได้ดี

7. กันสาดต่อเติม
กันสาดที่ยื่น ออกมาจากแนวอาคารมาก ๆ ควรมีเสามารับน้ำหนักเพิ่มเติม โดยแยกโครงสร้างให้ยื่นออกจากอาคารเดิม แล้วตีแนวไม้จันทันฝากน้ำหนักไว้กับเสา เท่านี้ระเบียงก็จะมีกันสาดยื่นยาวออกไปได้ตามต้องการแล้ว

8. กันสาดนั่งเล่นได้
ต่อ เติมกันสาดให้ยื่นออกนอกตัวอาคารด้วยแผ่นไม้ขนาดหน้ากว้าง 15 เซนติเมตร เว้นร่องห่างกัน 2 เซนติเมตร โดยตีแนวคานไม้ให้ห่างกันทุก ๆ ระยะ 60 เซนติเมตร เพื่อช่วยให้กันสาดมีความแข็งแรง นอกจากบังแดดและฝนแล้ว เรายังสามารถขึ้นไปนั่งเล่นหรือใช้งานอื่น ๆ ได้ด้วย

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความผนังสวยงามขึ้นจากกระเป๋าเดินทาง [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th

ตกแต่งผนังจากกระเป๋าเดินทาง
วัสดุตกแต่งผนังเป็น อีก ทางเลือกหนึ่งในการสร้างสรรค์ผนังเรียบๆให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีวัสดุหลายชนิดให้เลือกใช้มากมาย ทั้งแบบตกแต่งให้เกิดลวดลายและสีสัน และแบบที่ให้ผิวสัมผัสแปลกใหม่ในรูปแบบสามมิติ ซึ่งแบบหลังนอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ผิวสัมผัสที่ลึกตื้นไม่เท่ากัน ก็ทำให้เกิดการตกกระทบของแสงเงาที่ดูสวยงามแปลกตา สำหรับวัสดุตกแต่งผนังสามมิติที่เราจะพาไปชมนั้นออกจะมีที่มาแปลกอยู่สัก หน่อย ตรงที่แต่เดิมใช้เป็นวัสดุสำหรับผลิตกระเป๋าเดินทาง เมื่อนำมาประยุกต์เข้ากับการออกแบบและตกแต่งสมัยใหม่ ก็กลายเป็นวัสดุที่น่าจับตามองอีกตัวหนึ่ง จะมีอะไรบ้างนั้นลากกระเป๋าเดินทางมาดูใกล้ๆ แล้วไปชมพร้อมกันเลยค่ะ

จากกระเป๋าเดินทาง
เรา เดินทางมายัง บริษัทบลูไล้ท์ อุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตกระเป๋าเดินทางมายาวนานถึง 56 ปี ปัจจุบันได้แตกบริษัทลูกออกมาผลิตวัสดุตกแต่งผนังภายใต้ชื่อแบรนด์ “3D Surface” โดย บริษัท Design Surface จำกัด ซึ่ง คุณเกรียงไกร อภิรมย์ฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ ทายาทรุ่นที่สาม เล่าความเป็นมาของกระเป๋าเดินทางในยุคแรกมาสู่ยุคปัจจุบันให้ฟังว่า

“ที่ นี่ก่อตั้งมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ ผลิตเฉพาะกระเป๋าเดินทาง ในยุคแรกลักษณะกระเป๋าเป็นทรงโบราณที่เรียกว่า ‘กระเป๋าเซี่ยงไฮ้’ ผลิตจากหนังหุ้มไม้และกระดาษแข็งเย็บมือ รุ่นต่อมาจึงพัฒนาเป็นกระเป๋าแข็งที่ใช้วัสดุแข็งแรงขึ้น มีเทคโนโลยีและเครื่องจักรเข้ามาใช้งาน ปัจจุบันมีการผลิตจากวัสดุ 2 ชนิด คือ ABS (Acrylonitrile Butadiene Styrene) และพอลิคาร์บอเนต โดยเน้นการออกแบบให้มีลวดลายมากขึ้น จนถึงทุกวันนี้เรารับผลิตกระเป๋าเดินทางหลากหลายรูปแบบทั้งตามออร์เดอร์ สำหรับเป็นของพรีเมียม รวมทั้งแบรนด์ของเราเองที่ชื่อว่า คาจิโอนี่ (CAGGIONI) จำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออก”

จากผู้ผลิตกระเป๋าเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์มาสู่การผลิตวัสดุกรุผนัง คุณเกรียงไกรให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า
“เริ่ม จากกระเป๋าเดินทางของเราได้รางวัลออกแบบผลิตภัณฑ์ DEmark (Design Excellence Award) จากกรมส่งเสริมการส่งออก และจากนั้นก็ได้รับรางวัล G-Mark จากประเทศญี่ปุ่น เราจึงเริ่มมองว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้น่าจะขยายผลออกเป็นธุรกิจอื่นได้อีก เพราะว่ามีลวดลายหลากหลาย จนในที่สุดก็พัฒนาเป็นวัสดุกรุผนังครับ”

การผลิตวัสดุกรุผนัง
ขั้น ตอนการผลิตวัสดุกรุผนังแบบสามมิติใช้วิธีเดียวกับการผลิตกระเป๋าเดินทาง เพียงแต่ใช้แม่พิมพ์ต่างขนาดกัน เริ่มจากนำเม็ดพลาสติก ABS หรือพอลิคาร์บอเนตเข้าเครื่องหลอมด้วยความร้อนและรีดออกมาเป็นแผ่น (ABSใช้ความร้อน 180 องศาเซลเซียส และทนความร้อนได้ 60-80 องศาเซลเซียส ส่วนพอลิคาร์บอเนตใช้ความร้อน 220 องศาเซลเซียส และสามารถทนความร้อนได้ 80-100 องศาเซลเซียส) จากนั้นจึงขึ้นรูปเป็นชิ้นงาน แล้วนำไปทำสี ซึ่งมีสองแบบคือ ใช้สีพ่นอุตสาหกรรมพ่นทับลงไปบนพื้นผิวของชิ้นงานแต่ละชิ้น อีกแบบคือการผสมสีลงไปในเนื้อพลาสติกซึ่งจะมีความทนทานในการใช้งานมากกว่า จากนั้นนำไปเคลือบแล็กเกอร์ทับอีกครั้งเพื่อความแข็งแรง

Tip ข้อแตกต่างของวัสดุสองชนิดคือ ABS จะมีราคาถูกกว่า แต่ความคงทนก็จะน้อยกว่า จึงเหมาะสำหรับใช้งานภายในอาคาร ส่วนวัสดุพอลิคาร์บอเนต มีความแข็งแรงทนทาน เหนียวและยืดหยุ่นได้ดี สามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยผู้ผลิตจะเติมสารป้องกันรังสียูวีลงในเนื้อพลาสติกก่อนขึ้นรูป

ติดตั้งบนผนัง
ผลิตภัณฑ์ มีให้เลือกทั้งหมด 12 ลายและจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ลูกค้าสามารถเลือกสีได้เองจากแค็ตตาล็อกสี หรือจะนำตัวอย่างสีมาให้ก็ได้เช่นกัน สามารถทำสีได้ทั้งแบบเงาและแบบด้าน ส่วนการติดตั้งใช้เพียงอุปกรณ์ซึ่งเป็นคลิปหนีบติดบนผนังเพื่อช่วยล็อกให้ แผ่นผนังตรึงอยู่กับที่ วัสดุกรุผนังรูปแบบนี้มีข้อดีในการนำไปใช้งานคือ

1. ติดตั้งง่าย และใช้เวลารวดเร็ว
2. เปลี่ยนใหม่ได้ง่ายโดยไม่ทำลายผนังเดิม
3. ทำสีเสร็จในตัวจึงไม่ต้องเสียเวลาทำสี
4. ราคาไม่สูงมากและน้ำหนักเบากว่าเมื่อเทียบกับผนังสามมิติประเภทอื่น เช่น เซรามิก หรือเอ็มดีเอฟ

สำหรับ ข้อจำกัดของวัสดุก็คือหากใช้งานภายนอกอาคารอาจมีสีซีดจางบ้าง และควรระวังไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนหนักๆ หากเป็นพอลิคาร์บอเนตห้ามโดนน้ำมันหรือพลาสติกพีวีซี เนื่องจากจะเกิดการกัดกร่อนที่พื้นผิว การทำความสะอาดสามารถฉีดล้างหรือใช้ฟองน้ำหรือผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำเช็ดได้ตาม ปกติ

ขอขอบคุณ
คุณเกรียงไกร อภิรมย์ฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ
คุณกอบกุล ฟอน อาร์ตมัน รองกรรมการผู้จัดการ
บริษัทบลูไล้ท์ อุตสาหกรรม จำกัด 76 ซอยวัดสิงห์ ตำบลกระแชง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
บริษัท Design Surface จำกัด 920 ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ 0-2243-5433-5

ที่มา: Baanlaesuan

คอนโด บทความอยากมีผนังกระจกรอบบ้าน ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th

1. ความปลอดภัยต้องมาก่อน
คำว่ากระจกย่อมมาพร้อม กับคำ ว่าแตกร้าวเสมอ ดังนั้น เราควรคำนึงถึงลักษณะของกระจกที่ใช้เป็นหลัก ควรใช้กระจกนิรภัยจำพวกกระจกเทมเปอร์ ความหนาไม่ควรน้อยกว่า 10 มิลลิเมตร สำหรับงานผนัง เนื่องจากกระจกชนิดนี้ผ่านการอบพิเศษจึงมีความแข็งแรง ในขณะที่เกิดเหตุสุดวิสัยหรือมีของแข็งมากระทบกระจกอย่างรุนแรง กระจกจำพวกนี้จะแตกออกเป็นเม็ดเล็ก ๆ ไม่มีเหลี่ยมคม จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยและสัตว์เลี้ยงในบ้าน

2. การรั่วซึมของน้ำ
ใน กรณีที่ช่างติดตั้งกระจกขาดความชำนาญและความประณีตในการติดตั้ง ควรระวังขั้นตอนการยาแนวและอุดรอยต่อด้วยกาวซิลิโคน เพราะอาจเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาน้ำรั่วซึมและมีรูโหว่ตามรอยต่อ ต่าง ๆ จนน้ำฝนไหลซึมเข้าบ้าน ก่อความเสียหายให้ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านได้

3. หลีกเลี่ยงทิศตะวันตก
ต้อง ยอมรับว่าแสงแดดช่วงบ่ายในเมืองไทยนั้นหนักหนาสาหัสมากสำหรับผู้ที่ต้อง สัมผัส ผนังบ้านที่เป็นกระจกจึงไม่ควรจะอยู่ในทางทิศตะวันตก เพราะแสงแดดจะส่องเข้าบ้านโดยตรง ทำให้อากาศภายในห้องร้อนจัด ต้องเปลืองค่าไฟไปกับเครื่องปรับอากาศโดยไม่จำเป็น

4. สภาพแวดล้อมรอบบ้าน
ควร ปลูกไม้ยืนต้นที่มีทรงพุ่มขนาดใหญ่หรือมีใบหนาไว้รอบบริเวณบ้าน เพื่อป้องกันแสงแดดและให้ร่มเงากับตัวบ้าน ส่วนพื้นรอบ ๆ บ้าน ควรหลีกเลี่ยงพื้นปูนหรือมีสระน้ำ เพราะจะสะท้อนความร้อนจากภายนอกเข้าสู่บ้านของคุณ

5. เป็นระเบียบเรียบร้อย
ถ้า ต้องการกรุกระจกให้เป็นผนังรอบบ้าน ก็คงไม่เหมาะที่จะปิดม่านทั้งวันเพื่อบังสายตาจากภายนอก ดังนั้น เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และดูน่าประทับใจของผู้พบเห็น จึงควรเก็บกวาด เช็ดถู หรือจัดบ้านให้สวยงามอยู่เสมอ

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความไอเดียการแปลงบ้านเก่าให้ดูสดใส [www.cmc.co.th]




บทความจาก www.cmc.co.th

1. ของตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์เก่าใช่ว่าจะดูเชยไปเสียหมด เพียงแค่นำมาทาสีและหุ้มเบาะใหม่ เฟอร์นิเจอร์เก่าก็กลับมาดูเก๋ได้อีกครั้ง
2. นำโซฟาและเก้าอี้เก่าๆออกมาปัดฝุ่น ทาสีหรือหุ้มผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ใหม่ให้เข้ากับโทนสีหรือลวดลายงานตกแต่งอื่นๆในบ้าน
3. บ้านเก่าที่มีโครงสร้างเป็นเอกลักษณ์อย่างบันไดวน ฝ้าเพดาน ผนังปูนฉาบลวดลายสวยๆอย่าเพิ่งทุบทิ้ง ลองสร้างเป็นจุดเด่นด้วยสีสันให้ดูเข้ายุคสมัย ช่วยเปลี่ยนโฉมบ้านเก่าให้สวยเท่ทั้งยังไม่เปลืองงบด้วย

ที่มา: Roommag

คอนโด บทความดีไซน์เบาๆ ไม่ต้องเครียด อัพเดตเทรนด์ล่ามาแรง [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th

ผ่านพ้นช่วงครึ่งปีแรกไปแล้ว ในแวดวงออกแบบระดับโลกก็มีการอัพเดตดีไซน์เทรนด์ที่กำลังมาแรง สำหรับช่วงนี้เท่าที่เราจับกระแสได้ก็มี 2 เทรนด์ที่น่าสนใจและคิดว่าคนไทยน่าจะชอบด้วย เทรนด์แรกเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบเบาๆ ซึ่งสื่อออกมาจากรูปทรง เส้นสาย น้ำหนัก และผิวสัมผัสของวัสดุที่เลือกใช้ นอกจากความเท่ของดีไซน์ และการโชว์เทคโนโลยีใหม่ๆแล้ว การใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เหล่านักออกแบบให้สำคัญ

อีก เทรนด์ที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ งานดีไซน์สนุกๆ เห็นแล้วอมยิ้มน้อยๆ เน้นการใช้รายละเอียดเล็กๆที่ดูแปลกตา เราชอบดีไซน์ใจกล้าแบบนี้ เพราะเป็นการเล่นสนุกกับวัสดุใหม่หรือวัสดุเก่าแต่ใช้บ่อยๆ อย่างผ้า หนัง ไม้ หรือของใช้ รีไซเคิลที่นำมาเล่าเรื่องใหม่ สร้างความน่าสนใจให้เฟอร์นิเจอร์ยิ่งขึ้น

เรามีตัวอย่างเฟอร์นิเจอร์ อินเทรนด์สุดๆมาให้คุณๆได้ชมกัน ลองดูไอเดียเด็ดๆของเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ แล้วนำไปปรับใช้กับบ้านของคุณ น่าจะสร้างความสนุกและตื่นเต้นให้คนมองได้ไม่มากก็น้อย... รับรองค่ะ

ที่มา: Baanlaesuan

คอนโด บทความนวัตกรรมกระเบื้อง... ยุคใหม่ [www.cmc.co.th]



บทความจาก www.cmc.co.th

กระเบื้องเป็นวัสดุที่มีความคงทนสวยงามและดูแลรักษาง่าย ที่นิยมใช้กันก็มีทั้งกระเบื้องดินเผา ซึ่งเหมาะกับบ้านที่ต้องการบรรยากาศแบบไทยๆและเป็นธรรมชาติ กระเบื้องเซรามิกหรือโมเสก ซึ่งมีสีสันและลวดลายให้เลือกมากมาย มีทั้งประเภทผิวหยาบสำหรับใช้ปูพื้น และผิวเรียบสำหรับกรุผนังหรือเคาน์เตอร์

ปัจจุบันมีการผลิตกระเบื้องด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ใช้เทคนิคพิมพ์สีบนกระเบื้องก่อนเผา ช่วยให้
ลวดลายติดทนนาน รวมถึงมีนวัตกรรมอื่นๆชวนให้น่าค้นหาอีกมายมาย อยากรู้ตามไปดูพร้อมๆกันเลย

GRAND CALCUTTA SERIES
กระเบื้อง ที่ได้แรงบันดาลใจจากความสวยงามของหินอ่อน ซึ่งเป็นชนิดพิเศษที่มีความขาวเรียบเนียน ศิลปินส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้ในงานประติมากรรม เมื่อผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย จึงสามารถถ่ายทอดสีสันและลวดลายหินอ่อนบนแผ่นกระเบื้องได้อย่างสมจริง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ COTTO TILES LIBRARY

COTTO MARMO GRANITO
โดด เด่นด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่สร้างลวดลายของริ้วหินแทรกลงในเนื้อกระเบื้อง แต่ละแผ่นจะมีลวดลายแตกต่างกัน ให้ความรู้สึกเหมือนหินธรรมชาติจริงๆ มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำเพียง 0.1 เปอร์เซ็นต์ จึงมีความแข็งแกร่งกว่าหินธรรมชาติทั่วไป สอบถามรายละเอียดได้ที่ COTTO TILES LIBRARY

DURAGRES ANTI BACTERIA TILES
กระเบื้อง ที่ช่วยปกป้องคุณจากเชื้อโรค โดยใช้เทคนิคการเคลือบผิวหน้ากระเบื้องด้วยอนินทรีย์สาร ซึ่งมีศักยภาพในการยับยั้งแบคทีเรียตลอดอายุการใช้งาน เพราะสารดังกล่าวจะเข้าไปรบกวนการเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ของเชื้อ แบคทีเรีย แต่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สหโมเสคอุตสาหกรรม

กระเบื้องเปลือกหอย
กระเบื้อง ที่ตกแต่งด้วยเศษเปลือกหอยมีหลากหลายรูปแบบ เช่น ลายอิฐ และสี่เหลี่ยมผืนผ้า ของบริษัทมิราเคิลเพิร์ล จำกัด ขนาดมาตรฐาน 2x2 นิ้ว สามารถรองหลังด้วยเซรามิก ไฟเบอร์กลาส ไม้ หรือหินอ่อน มีเปลือกหอยให้เลือกหลากหลายชนิด สามารถปูได้ทั้งพื้นและกรุผนัง ทั้งห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ฯลฯสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Material ConneXion Bangkok

กระเบื้องตุรกี
งานเซรามิก ชิ้นสวยลายพื้นเมืองนำเข้าจากประเทศตุรกี เหมาะกับงานตกแต่งบนผนังปูนสีสดใสสไตล์โมร็อกโก มีให้เลือกทั้งกระเบื้องเพ้นต์ลายที่มีส่วนผสมของหินควอตซ์ในเนื้อสี จึงให้สีสันสดใสยาวนาน และกระเบื้องพิมพ์ลายพื้นเมือง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ TEALIGHT COLLECTION

ECOSANO SERIES BY COTTO HYGIENIC
เป็น อีกนวัตกรรมในการผลิตกระเบื้องจากประเทศญี่ปุ่นมี “Allophane” (ซึ่งเป็นแร่ธาตุธรรมชาติ) เป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำให้ ECOSANO สามารถควบคุมความชื้นในห้องช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคภูมิแพ้ และช่วยดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ เช่น บุหรี่และกลิ่นจากสัตว์เลี้ยงได้ด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ COTTO TILES LIBRARY

MOTION SQUARE BLACK
สะดุด ตาด้วยลวดลายสามมิติที่เกิดจากลายเส้นขาวและดำหลอมเป็นเนื้อเดียวกัน เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 1 x 1 นิ้ว ติดอยู่บนตาข่ายใยแก้วซึ่งจัดเรียงให้มีช่องว่างระหว่างกระเบื้องแต่ละแผ่น เท่าๆกัน ให้ความรู้สึกราวกับภาพเคลื่อนไหว ดูมีชีวิตชีวา สามารถใช้ตกแต่งผนังได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ทั้งพื้นผิวแบนราบและผิวโค้ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ COTTO TILES LIBRARY

COTTO DIGITAL
ผลิตด้วยเทคนิคการพิมพ์ แบบ Touchable 3D Digital ถ่ายทอดรายละเอียดบนแผ่นกระเบื้องได้สวยงามคมชัด ลวดลายติดทนนานอยู่ในเนื้อกระเบื้อง ไม่เหมือนเทคนิคการพิมพ์รุ่นก่อนๆ เหมาะสำหรับผนังที่ต้องการลวดลายในตัว สามารถสั่งผลิตขนาดของกระเบื้องได้ตามต้องการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ COTTO TILES LIBRARY

COTTO ECO TILES
เป็น หนึ่งในวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างน่าทึ่ง ผลิตจากวัตถุดิบรีไซเคิลมากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งตามมาตรฐานของกระเบื้องคอตโต้ มีให้เลือกใช้ 2 รุ่น ได้แก่ “ECO TOUCH” กระเบื้องเซรามิกลายไม้ที่ผสานความงามตามวิถีแห่งธรรมชาติเข้ากับแนวคิด ห่วงใยสิ่งแวดล้อม และ “ECO ROCKRETE” ที่ให้ความรู้สึกดิบด้วยอารมณ์แบบปูนเปลือย และสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมยุคใหม่ สอบถามรายละเอียดได้ที่ COTTO TILES LIBRARY

DURAGRES HEALTHY TILES
กระเบื้อง ที่สามารถปล่อยประจุลบ (Negative Ion) เปรียบเสมือนวิตามินของอากาศ ซึ่งจะไปทำปฏิกิริยากับประจุบวก (Positive Ion) หรือมลพิษต่างๆในอากาศ ทำให้เกิดความเสถียรและตกลงสู่พื้น อนุภาคที่เสถียรนี้จะย่อยสลายได้ง่าย ไม่เป็นอันตราย ช่วยทำให้อากาศรอบๆพื้นผิวกระเบื้องมีความบริสุทธิ์ขึ้น ส่งผลดีต่อสุขภาพ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สหโมเสคอุตสาหกรรม

ที่มา: Baanlaesuan
edit @ 26 Apr 2013 11:35:25 by car2hot