บทความจากเว็บไซต์ http://www.cmc.co.th
ในยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ดอย่างทุกวันนี้ ค่าน้ำมันก็พุ่งสูงขึ้น ทำให้ข้าวอย่างอานแพงขึ้นไปด้วย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากจะหลีกหนีความวุ่นวายภายนอก มาพักผ่อนอยู่กับบ้านให้สบายใจ แถมประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย วันนี้เรามีเคล็ดลับการแต่งบ้านที่จะเนรมิตบ้านที่จะแสนธรรมดาของคุณ ให้เป็นสถานที่พิเศษ แถมยัง Save เงินในกระเป๋า ดังนี้
ประหยัดด้วยไอเดีย
1. เปลี่ยนสีบนผนัง การทาสีผนังบ้านใหม่ นับเป็นวิธีแต่งบ้านที่ง่าย ประหยัด และได้ผลดีที่สุดทางหนึ่ง ลงทุนแค่สีน้ำพลาสติกสวยๆ กับแปรงทาสีอีกสักอัน ราคารวมกันไม่เท่าไร มาจัดการเปลี่ยนผนังเก่าสีหมองในบ้านให้ดูสวยสดใสขึ้น เท่านี้ก็สามารถสร้างบรรยากาศแปลกใหม่ในบ้านได้ด้วยราคาแสนสบายกระเป๋า
2. เก็บสายไฟในท่อ การเดินสายไฟแบบฝังในผนังดูเรียบร้อยก็จริง แต่จะซ่อมแซมหรือเดินเพิ่มทั้งทีก็ต้องทุบผนัง เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา ลองเปลี่ยนมาเดินลอยบนผนัง โดยร้อยใส่ท่อเหล็กแล้วอาจทาสีทับให้ดูเรียบร้อย ช่วยประหยัดงบประมาณในการดูแลรักษาและช่อมแชม
3. ปรับแสงปรับอารมณ์ ด้วยการเปลี่ยนสีของหลอดฟลูออเรสเซนต์ทั่วๆ ไป โดยนำมาหุ้มด้วยปลอกพลาสติกหลากสี ราคาเพียงปลอกละ 10 บาท ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป เพียงเท่านี้ก็จะได้หลอดไฟสีสวยไว้ใช้ตกแต่งและสร้างบรรยากาศของบ้านได้ใน ราคาถูกและช่วยประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดนีออน
4. เปลี่ยนโครงสร้างบ้านเป็นเฟอร์นิเจอร์ ใช้ประโยชน์จากส่วนโครงสร้างของบ้าน เช่น ช่องว่างระหว่างเสา โดยสามารถติดแผ่นไม้ให้กลายเป็นชั้นวางของได้ หรืออาจก่อปูสูงสัก 40 เซนติเมตร แล้วหาเบาะสวยๆ มาวางทำเป็นม้านั่งก็ดูดีไปอีกแบบ แถมยังช่วยประหยัดสตางค์ในการทำเฟอร์นิเจอร์ไปได้อีกเยอะ
ปรับเปลี่ยนได้
5. หนึ่งชิ้นหลายหน้าที่ ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนหน้าที่การใช้งานได้หลายอย่าง เช่น โซฟาเบด ที่สามารถใช้นั่งหรือปรับเป็นเตียงนอนได้ ราคาต่อชิ้นอาจจะแพงกว่าสักหน่อย แต่ด้วยประโยชน์ที่หลากหลายก็ช่วยให้คุณประหยัดได้กว่าการซื้อเฟอร์นิเจอร์ หลายชิ้น
6. ยืดได้หดได้ ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบที่สามารถปรับเปลี่ยนขนาด ย่อขยาย ยืดหด วางต่อ หรือซ้อนชั้นกันได้ เพื่อรองรับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบตามความต้องการ ช่วยให้คุณประหยัดได้ทั้งงบประมาณและพื้นที่ใช้สอย
7. เคลื่อนที่ได้ สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ได้ใช้งานตลอดเวลา ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเคลื่อนย้ายสะดวก อย่างโต๊ที่มีล้อเลื่อน จะช่วยให้เราสลับตำแหน่งและการใช้งานได้ง่ายขึ้น เช่นโต๊ะรับประทานอาหารขนาดเล็กที่สามารถเลื่อนไปใช้งานในครัวได้เมื่อต้อง ทำอาหาร
แต่งบ้านอย่างมีแผน
8. วางแผนก่อนเพื่อเห็นภาพรวม เหมือนมืออาชีพที่ต้องเขียนแบบแปลน ก่อนจะเริ่มตกแตงคุณควรเขียนแบบแปลนหรือแผนการตกแต่งทั้งหมด เพื่อช่วยให้เห็นภาพรวมและรู้ว่าควรทำอะไรก่อนหลัง เช่น ควรทาสีผนังให้เรียบร้อยก่อนเก็บงานที่พื้น เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดจนต้องทำงานซ้ำซ้อน ซึ่งจะส่งผลต่อสตางค์ในกระเป๋าคุณแน่นอน
9. แต่งบ้านทีละระยะ การแต่งบ้านให้สำเร็จลุล่วงในคราวเดียวเป็นเรื่องที่ดี แต่อาจทำให้กระเป๋าฉีกได้ ลองแบ่งงานตกแต่งบ้านทั้งหมด (ตามแผนที่คุณวางไว้) ออกเป็นช่วงๆ โดยให้ระยะแรกเป็นส่วนที่จำเป็นที่สุดก่อน แล้วดำเนินการทีละขั้นตอน เมื่อระยะแรกจบอาจทิ้งช่วงเก็บสตางค์สักพัก จากนั้นจึงเริ่มช่วงต่อไป กว่าจะเสร็จอาจใช้เวลาสักหน่อย แต่เพื่อไม่ให้คุณรับภาระหนักเกินไป และยังเป็นการให้เวลากับตัวคุณในการสรรหาสิ่งของแต่งบ้านที่ถูกใจจริงๆ ด้วย
10. ซื้อช่วงลดราคาถูกกว่าเยอะ ร้านขายของแต่งบ้านเกือบทุกร้าน จะมีช่วงลดกระหน่ำประจำปี โดยเฉพาะร้านใหญ่ๆ อย่าง Modernform, Index และ Habitat ซึ่งหากเราอดใจรอซื้อในช่วงลดราคา ก็จะได้ของดีที่ราคาถูกมากกว่า โดยเฉพาะของชิ้นใหญ่ที่ใช้งบเยอะอย่างเช่น ที่นอน โซฟา เตียง หรือตู้เสื้อผ้า รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ด้วย แต่คุณอาจต้องจดบันทึกสักหน่อยว่า ร้านที่คุณไปเล็งๆ ของไว้นั้น เขาลดราคากันช่วงไหน เดือนไหนของปี บ้างที่ลดปีละ 2 หน เพื่อที่ปีถัดไปคุณจะได้วางแผนการช้อป และเตรียมเก็บเงินได้พอดี และต้องตาดีพอจะเลือกของคนละเวลา คนละสถานที่ แล้วนำมาเข้าชุดกันได้
D.I.Y. ทำเองได้ไม่ต้องซื้อ
11. วอลล์เปเปอร์ทำมือ วอลล์เปเปอร์ที่กำลังอินเทรนด์ ช่วยให้ผนังบ้านคุณน่าสนใจทีเดียว แต่ก็ราคาสูงเช่นกัน แล้วถ้าลองทำเองล่ะ โดยใช้แผ่นพลาสติกฉลุลาย (ดูตัวอย่างจากหนังสือแต่งบ้านก็ได้) ใช้เป็นแบบ แล้วนำไปพ่อสีสเปย์ หรือทาสีที่ต่างจากผนัง ให้สีลอดส่วนที่ฉลุลงไปบนผนังจนเกิดเป็นลวดลาย เพียงเท่านี้คุณจะได้วอลล์เปเปรอ์ลายสวยไม่ซ้ำใครในราคาแสนสบายกระเป๋า
12. สวยด้วยผ้า ไปเดินเลือกผ้าลายสวยราคาไม่แพงสักผืนจากพาหุรัด นำมาบวกกับไอเดียและฝีมือการเย็บปักถักร้อยของคุณ ก็สามารถใช้ทำของตกแต่งบ้านอย่างง่ายๆ ในราคาแสนถูก โดยนำมาเย็บเป็นปลอกหมอน หรือทำเป็นเบาะรองนั่ง ช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเก่าของคุณดูสวยน่าใช้ยิ่งขึ้น
13. ใช้ผ้าซ่อนความเก่า เก้าอี้นั่งที่ดูเก่าและเชย หรือโซฟาสมัยคุณยายที่ขาดแล้ว หากยังไม่มีสตางค์เอาไปซ่อมหรือซื้อของใหม่ ลองเย็บผ้าคลุมลายสดใส โดยเลือกลวดลายได้ตามใจชอบเย็บให้ได้รูปทรงแล้วสวมทับลงไป เพื่อปิดบังความเก่า ใครที่นึกวิธีทำไม่ออก เราขอแนะนำให้ไปดูหนังสือ Sott Furnishings ของสำนักพิมพ์บ้านและสวน มีไอเดียเกี่ยวกับผ้าและแพตเทิร์นให้ทำตามมากมาย
บางอย่างใช้แทนกันได้
14. สมมุติว่าเป็นไม้ ม่านปรับแสงไม้ขาดแผ่นกว้าง 2 นิ้วกำลังเป็นที่นิยม ช่วยให้บ้านมีอารมณ์สบายสไตล์รีสอร์ท แต่ราคาค่อนข้างสูง คุณอาจเลือกใช้ม่านปรับแสงที่ทำจากอลูมิเนียมแทน โดยเลือกขนาดของแผ่นม่านให้เท่ากัน ขึงด้วยแถบผ้าสีเข้มๆ เช่น สีดำหรือสีน้ำตาล ก็จะได้ม่านปรับแสงที่ดูดีแต่ราคาถูกกว่าเยอะ
15. สมมุติว่าเป็นโต๊ะ กล่อง ลัง หรือกระเป๋าเดินทาง แทนที่จะใช้เก็บของแล้ววางซ่อนอยู่มุมห้องเพียงอย่างเดียว เมื่อนำมาวางซ้อนกันยังสามารถใช้เป็นโต๊ะกลาง กรือโต๊ะวางของอย่างง่ายๆ ช่วยประหยัดเหมือนได้เฟอร์นิเจอร์อีกชิ้นโดยไม่ต้องไปซื้อเพิ่ม
16. สมมุติว่าเป็นผนัง ถ้าคุณจำเป็นต้องแบ่งส่วนห้องเพิ่ม แต่ยังไม่มีสตางค์พอที่จะทำผนังเบา ลองทำราวเพื่อแขวนผ้าม่านขนาดยาวแทน โดยเลือกให้ขนาดของแผ่นผ้าม่านเท่ากัน นอกจากจะราคาถูกกว่าแล้วยังสามารถรูดม่านเก็บได้เมื่อต้องการพื้นที่เปิด โล่ง และยังสามารถปรับเปลี่ยนลายผ้าได้ตามใจชอบอีกด้วย
17. วงกบสีดำ แทนที่ต้องใช้วงกบ UPVC หรือวงกบไม้ที่ราคาสูง เพียงแค่คุณลองเปลี่ยนมาใช้วงกบอลูมิเนียมสีดำก็ดูเท่ ดูดีได้เช่นกัน แถมราคาถูกกว่ากันเยอะ สามารถเข้ากับบ้านได้ทุกสไตล์ เป็นทางเลือกที่สถาปนิกนิยมเลือกใช้ เพราะประตูหน้าต่างแบบเรียบๆ กับกรอบสีเข้ม จะช่วยให้บ้านคุณดูดีขึ้นได้เกินราคา
Mix & Match ประหยัดกว่า
18. เรียบไว้ก่อน เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ที่เราต้องใช้ไปอีกนาน อย่างโซฟา หรือโต๊ะรับประทานอาหาร ควรเลือกซื้อแบบและสีเรียบๆ ไว้ก่อน เพราะเฟอร์นิเจอร์ที่ดูเรียบนั้นเข้ากับอะไรก็ได้ แถมดูไม่น่าเบื่อง่ายหรือล้าสมัย ช่วยให้การซื้อของอื่นๆ ที่อยู่รายรอบง่านดายขึ้น และประหยัดงบไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
19. แต่งแบบไม่ยึดติด การเลือกแต่งบ้านโดยไม่ยึดติดกับสไตล์ใดสไตล์หนึ่ง เช่น การเลือกใช้เก้าอี้คละแบบสำหรับชุดรับประทานอาหาร บางตัวอาจราคาถูก บางตัวอาจมีราคาสักหน่อย แต่คุณสามารถเลือกให้เข้ากันได้ ก็จะช่วยประหยัดได้มากกว่าการซื้อเฟอร์นิเจอร์แบบยกชุด
20. เสียตรงไหนเปลี่ยนตรงนั้น ข้อดีของการแต่งบ้าน Mix & Match อีกข้อหนึ่งก็คือ เมื่อของบางชิ้นชำรุดเสียหาย เราก็สามารถเปลี่ยนหรือซ่อมใหม่ได้เฉพาะตัวที่เสีย ไม่ต้องเปลี่ยนหรือซ่อมทั้งชุด จะช่วยให้คุณประหยัดไปได้อีกเยอะ
ที่มา: www.thaihomeonline.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น